10 วิธีใช้ Google Classroom สร้างห้องเรียนและทําอะไรได้บ้าง

10 วิธีใช้ Google Classroom สร้างห้องเรียนและทําอะไรได้บ้าง

โควิด-19 ยังระบาดอยู่ เป็นโรคใหม่ที่ทุกคนทั่วโลกต้องระวัง โดยเฉพาะกลุ่มเด็กวัยเรียนที่ได้รับการจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับคอร์สออนไลน์ ถึงแม้ว่าบางโรงเรียนไม่สามารถเปิดสอนได้ครบทุกคนเหมือนเดิมแล้ว แต่การสลับกันเข้าเรียน หรือเปิดคอร์สเรียนออนไลน์ก็เป็นทางออกที่ดีที่เรียนรู้ได้ที่บ้าน
Google Classroom เป็นการสร้างห้องเรียน ที่วางระบบเช็กชื่อ และสร้างโพสต์กิจกรรมได้ โดยที่ครูผู้สอนต้องออกแบบห้องเรียนนี้ไว้
Google Classroom ทําอะไรได้บ้าง

Ads by BIDSXCHANGE

  1. สร้างรหัสล็อกอินได้ทั้งผู้สอน และผู้เรียน
    วิธีใช้งานคือ ผู้ใช้งานเข้าไปสร้างห้องเรียน Google Classroom ได้ที่ classroom.google.com ใน Browser Google Chrome แล้วสร้าง Password
  2. จัดการข้อมูลทั่วไปของชั้นเรียน
    ในสถาบันการเรียน จะต้องมีผู้สอนเข้าไปเลือกสร้างชั้นเรียนไว้ก่อน แล้วค่อยเพิ่มจำนวนผู้สอน และเพิ่มผู้เรียนภายหลังด้วยการกดเครื่องหมายบวก ในห้อง Google Classroom > Create Class และกรอกข้อมูลชื่อชั้นเรียน, เวลาเรียน, วิชา แล้วกด Create
  3. เพิ่มผู้สอนร่วม
    หากในชั้นเรียนมีผู้สอนอื่นๆ เพิ่มเติม คลิกเลือกที่แถบเมนู About > Invite Teathers คลิกเลือกผู้สอนร่วมจากบัญชี Gmail จากนั้นคลิก Invite
  4. จัดเก็บข้อมูลผู้เรียน และ นำผู้เรียนออกจากห้อง
    คลิกดูข้อมูลผู้เรียนได้ที่ Students และเชิญนักเรียนเข้าห้องเรียนได้ที่ Invite Students ด้วย Email สามารถจัดการให้ออกจากห้องได้ด้วยการกด “Remove”
  5. จัดเก็บชั้นเรียน เรียกคืนชั้นเรียนที่ถูกเก็บหรือลบได้
    ห้องเรียนที่ถูกสร้างเสร็จแล้ว สามารถคลิกเลือกเพื่อแก้ไขได้ที่ “Edit” และคลิกจัดเก็บได้ที่ “Archive” เมื่อต้องการคลิกกลับมาเลือกดูชั้นเรียนที่เก็บไว้ คลิกเลือก Archived Classes และเมื่อต้องการลบ คลิก “Delete”
  6. สร้างประกาศกิจกรรม
    เมื่อมีโน้ต หรือประกาศที่ต้องการแจ้งให้นักเรียนรับทราบ คลิกไปที่ “Announcement” และเลือกหัวข้อประกาศ ซึ่งสามารถแจ้งให้กับนักเรียนทุกคน หรือให้เห็นเฉพาะบางคนได้
  7. สร้างการบ้าน ตลอดจนให้ส่งงานและตรวจงาน
    สร้างการบ้าน ด้วยการตั้งสร้างคำถามได้ที่ เครื่องหมาย (+) เมื่อคลิกเลือกที่ Stream และ Create Queation
  8. แชร์โพสต์จากวิชาอื่น
    เมื่อต้องการนำเข้าโพสต์จากวิชาอื่นเพื่อให้ผู้เรียนได้ศึกษาเพิ่ม ก็เลือกที่ Stream กด เครื่องหมาย (+) แล้วเลือกไปที่ Reuse Post
  9. Export รายงานเป็น Google Sheet ให้ดาวน์โหลดเพื่อตัดเกรดให้คะแนนได้ง่าย
    เมื่อต้องการตรวจกิจกรรมหรือการบ้าน ก็สามารถเลือกไปที่ชื่อนักเรียนแต่ละคน หรือต้องการส่งคะแนนออกมาเป็น Google Sheets ก็คลิกเครื่องหมายฟันเฟืองด้านข้าง แล้วเลือกการส่งออกเป็น CSV ตามที่ต้องการ โดยเปิดใน Microsoft Excel ได้
  10. เปลี่ยนธีม
    เปลี่ยนธีมและแบนเนอร์ได้ด้วยการคลิกเลือก Select Theme > Gallery > Patterns เลือกรูปแบบที่ต้องการแล้วกด “Select Class Theme” หากต้องการเลือกรูปอื่น คลิก “Upload Photo”
    สรุป Google Classroom มีข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้าง
  11. Google Classroom ช่วยให้ผู้สอนสร้างห้องเรียนออนไลน์ ด้วยการเช็กชื่อ และจัดระเบียบเอกสารและกระดานในรูปแบบ Streaming ได้อย่างง่ายดาย
  12. และป้องกันความปลอดภัยได้ด้วยการเข้ารหัส เช่นเดียวกับการเข้าใช้งานผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของ Google
  13. สร้างการบ้านให้เด็กๆ เข้ามาทำกิจกรรมได้ และผู้สอนสามารถตรวจให้คะแนนรายคนได้
  14. ใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ ทั้ง PC และ Smart Device ที่รองรับ Android, iOS
  15. กำหนดรหัสให้นักเรียนใช้เข้าห้องเรียนได้ทีละคน

Share:

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
Share on linkedin
LinkedIn

ขอคำปรึกษา

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย

Table of Contents

On Key

Related Posts

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ Thesis Thailand ขอแนะนำการจัดตารางการอ่านหนังสือ ดังนี้ . 1. เลือกเวลาที่เหมาะสม เวลาที่เหมาะสมหมายความว่า เวลาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนชอบอ่านตอนเช้าตรู่ บางคนชอบอ่านตอนกลางคืนก่อนนอน บางคนชอบอ่านเวลากลางวัน แล้วแต่การจัดสรรเวลาของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน น้องต้องเลือกดูเวลาที่เหมาะสมของตัวเองนะ การจัดเวลาต้องให้ได้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง วันนึงถ้าอ่านหนังสือแค่วันละ 2 ชั่วโมงน้อยมาก . 2.

งานวิจัยเผย : คนฉลาดมักมีเพื่อนน้อยกว่าคนธรรม

งานวิจัยเผย : คนฉลาดมักมีเพื่อนน้อยกว่าคนธรรม

จากการศึกษางานวิจัยของ The British Journal of Psychology ทำการทดลองด้วยการสำรวจความเห็นของกลุ่มคนอายุ 18 ถึง 28 ปี จำนวนกว่า 15,000 คน ผลวิจัยพบว่า คนฉลาดหรือคนที่มีไอคิวสูง ๆ ที่จำนวนของกลุ่มเพื่อนมีผลกระทบต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก และคนฉลาดมักมีความพึงพอใจต่ำกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า นั่นแปลว่ายิ่งคุณฉลาดเท่าไหร่ คุณจะยิ่งไม่ชอบเข้าสังคมเลย . พบอีกว่าคนที่มีไอคิวสูงนั้นมักจะไม่ใช้เวลาไปกับการเข้าสังคมหรือใช้เวลากับเพื่อนมากนัก

งานวิจัยเผย : ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชาย

งานวิจัยเผย : ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชาย

จากการศึกษาเรื่องงานวิจัยที่น่าสนใจของ ดร.มุยเรียนน์ ไอริช นักประสาทวิทยาศาสตร์การรู้คิด จากสถาบันวิจัยประสาทวิทยาศาสตร์ออสเตรเลีย กล่าวว่าที่ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชายอาจเป็นเพราะผู้หญิงมักต้องทำงานที่ใช้ความจำในด้านบางอย่างมากกว่าผู้ชาย เช่น การตามตารางนัดหมาย หรือการตรวจสิ่งของต่างๆ ว่าเก็บไว้ตรงไหน ทำให้เหมือนเป็นการฝึกฝนไปในตัว . อีกทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษา & Holistic Medicine กล่าวว่าโครงสร้างของสมองระหว่างผู้ชายและผู้หญิงจะมีความแตกต่างกัน ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนเพศในช่วงตอนต้นของชีวิต โดยผู้หญิงจะมีสมองส่วน Hippocampus ทำหน้าที่เก็บความจำต่อเหตุการณ์ขนาดใหญ่กว่าผู้ชาย จึงเป็นสาเหตุให้ผู้หญิงสามารถจดจำเรื่องราวต่างๆ ได้มากกว่าและยังรวมถึงการระลึกเหตุการณ์เก่าๆ ที่สะเทือนจิตใจได้ดีกว่าผู้ชาย และขณะเดียวกันผู้ชายมักจะเก็บความทรงจำในภาพรวมหรือเหตุการณ์สำคัญๆมากกว่า

นักจิตวิทยาเผย : ระวังจิตพัง เพราะตามใจคนอื่น เป็นคนอะไรก็ได้

นักจิตวิทยาเผย : ระวังจิตพัง เพราะตามใจคนอื่น เป็นคนอะไรก็ได้

จากการศึกษาจาก แดรี่เลวานี จอห์นสัน (Darylevuanie Johnson) นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านการปรึกษาด้านจิตวิทยา กล่าวว่า คนที่ชอบเอาอกเอาใจผู้อื่นอยู่เสมอ หรือที่เรียกว่าเป็น People-Pleaser ที่ความพึงพอใจของคนอื่นมักจะมาก่อนของตัวเองเสมอ และคิดว่าตัวเองไม่มีอำนาจต่อรองใดๆ กับใครเลย เพราะการถูกปฏิเสธ ถูกโกรธ ถูกบอกเลิก หรือไม่ได้รับการยอมรับ . นับว่าเป็นเรื่องที่เจ็บปวดสำหรับคนประเภทนี้ ซึ่งหลายครั้งมันอาจถึงขั้นที่จะต้องแลกหรือเสียสละเวลา พลังงาน ความฝัน ความต้องการส่วนตัวของตัวเอง เพื่อทำให้คนอื่นมีความสุขมากที่สุด ทำให้พวกเขามักจะ