งานวิจัยเผย : ลักษณะของผู้ชายที่สามารถลงมือก่อเหตุดับชีวิตคนรักได้

งานวิจัยเผย : ลักษณะของผู้ชายที่สามารถลงมือก่อเหตุดับชีวิตคนรักได้

จากการศึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านอาชญาวิทยาในอังกฤษ ระบุว่า ผู้ชายที่จะลงมือสังหารคนรักของตัวเอง มีการทำตาม “ลำดับเวลาฆาตกรรม” ที่ตำรวจอาจจะใช้แกะรอยเพื่อช่วยเหลือเหยื่อก่อนถูกฆ่าได้ ดร. เจน มังก์ตัน สมิธ พบว่า รูปแบบ 8 ขั้นตอน ในการสังหาร 372 ครั้งที่เกิดขึ้นในสหราชอาณาจักร ดร. มังก์ตัน สมิธ กล่าวว่า ในบรรดาเหยื่อที่ถูกฆ่าโดยคนรักของตัวเองเป็นผู้หญิงมากกว่า 80% และส่วนใหญ่มีคนรักเป็นผู้ชาย

.

8 ขั้นตอนที่เธอค้นพบในเกือบทุกกรณีที่ผู้หญิงถูกฆ่าก็คือ

  1. ผู้ก่อเหตุมีประวัติของการล่วงละเมิดและแอบสะกดรอยตามในความสัมพันธ์ก่อนหน้าที่จะมีความสัมพันธ์กับเหยื่อ
  2. ความรักพัฒนากลายเป็นความสัมพันธ์ที่จริงจังอย่างรวดเร็ว
  3. ความสัมพันธ์นั้นถูกครอบงำด้วยการข่มขู่คุกคาม
  4. มีชนวนเหตุที่ทำให้ผู้ก่อเหตุเริ่มทำการข่มขู่คุกคาม ยกตัวอย่าง ความสัมพันธ์จบลง หรือผู้ก่อเหตุมีปัญหาด้านการเงิน
  5. มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นทั้งในด้านความถี่หรือความเข้มข้นของการเข้ามาควบคุมของคนรัก อย่างเช่น การสะกดรอยตาม หรือขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย
  6. ผู้ก่อเหตุตัดสินใจที่จะลงมือฆ่า
  7. ผู้ก่อเหตุวางแผน อาจจะหาซื้ออาวุธหรือหาจังหวะที่เหยื่ออยู่เพียงลำพังในการลงมือ
  8. ผู้ชายฆ่าคู่รักของตัวเอง และอาจจะทำร้ายคนอื่นด้วย อย่างเช่น ลูกของเหยื่อ

ดร. มังก์ตัน สมิธ กล่าวว่า มีกรณีเดียวที่ไม่ได้เป็นไปตามขั้นตอนนี้ คือ ผู้ชายไม่เคยมีความสัมพันธ์มาก่อนหน้านี้ ทำให้ไม่ได้เริ่มด้วยข้อแรก พ่อของอลิซ รักเกิลส์ หญิงสาววัย 24 ปี ที่ถูกฆาตกรรม กล่าวว่า เรื่องราวต่าง ๆ อาจจะเปลี่ยนไป ถ้าตำรวจรู้ถึงแบบจำลอง 8 ขั้นตอนของ ดร. มังก์ตัน สมิธ เพราะอลิซ รักเกิลส์ ถูกอดีตแฟนหนุ่มสะกดรอยตาม หลังจากที่ความสัมพันธ์ลึกซึ้งของทั้งคู่จบลง และถูกสังหารในเวลาต่อมา พ่อของอลิซกล่าวว่า “เขามีประวัติของการสะกดรอยตามและควบคุมคนอื่น นั่นคือสัญญาณเตือน ถ้าตำรวจรู้เกี่ยวกับ 8 ขั้นตอนนี้ พวกเขาก็คงจะรู้ว่า ข้อความข่มขู่ที่ส่งมาเหล่านั้น มันชัดเจนว่าอยู่ในขั้นตอนที่ 5 แล้ว”

.

อย่างไรก็ตาม ควรจะมีการวิจัยถึงวิธีการต่าง ๆ ที่ช่วยให้เหยื่อสามารถออกจากความสัมพันธ์ที่ถูกควบคุมอยู่อย่างปลอดภัย และสาเหตุที่ทำให้คนพยายามเข้ามาควบคุมความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งนั้น และหวังว่าข้อมูลงานวิจัยนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณ หากคุณสนใจหรือต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องของงานวิจัยนี้สามารถสอบถามกับทาง Thesis Thailand เพราะเรามีผู้เชี่ยวชาญด้านงานวิจัยที่พร้อมซัพพอร์ตคุณ

.

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจากเว็บ https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_7296814

Share:

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
Share on linkedin
LinkedIn

ขอคำปรึกษา

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย

Table of Contents

On Key

Related Posts

เทคนิคการเขียน Essay ให้ดีเยี่ยม!

เทคนิคการเขียน Essay ให้ดีเยี่ยม!

การเขียน Essay ที่ดีไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าคุณมีแผนที่ชัดเจนและเทคนิคที่เหมาะสม ลองทำตามเคล็ดลับง่าย ๆ เหล่านี้ เพื่อทำให้ Essay ของคุณดึงดูดความสนใจและมีความสมบูรณ์มากขึ้นค่ะ 🌟 1. เริ่มต้นด้วย Thesis Statement ที่ชัดเจน 🎯กำหนดประเด็นหลักที่คุณต้องการสื่อ และตั้งคำถามที่จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจว่าบทความของคุณมีจุดประสงค์อะไร ทำให้การเขียนมีทิศทางและสอดคล้องกัน 2. วางโครงสร้างและจัดระเบียบหัวข้อ 🗂️แบ่งเนื้อหาออกเป็นส่วน ๆ เช่น บทนำ

วิจัยเผย ‘วาซาบิ’ อาจช่วย ‘ผู้สูงอายุ’ ให้ความจำดีขึ้นได้

วิจัยเผย ‘วาซาบิ’ อาจช่วย ‘ผู้สูงอายุ’ ให้ความจำดีขึ้นได้

เป็นที่รู้กันในแวดวงวิทยาศาสตร์ว่า “วาซาบิ” (wasabi) ดีต่อสมอง แต่ยังไม่มีงานวิจัยเกี่ยวกับพืชชนิดนี้กับผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่สุ่มเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมมากที่สุด ด้วยเหตุนี้นักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นจึงได้ทำการวิจัยและค้นคว้าในเรื่องดังกล่าว การศึกษาซึ่งได้ตีพิมพ์ในวารสาร Nutrients โดยให้กลุ่มอาสาสมัครผู้สูงอายุกลุ่มหนึ่งรับประทานวาซาบิแบบเม็ดทุกวัน และอีกกลุ่มหนึ่งได้รับยาหลอกทุกวัน เป็นเวลา 3 เดือน เนื่องจากใน “วาซาบิ” มีส่วนผสมที่ชื่อว่า 6 เมทิลซัลฟินิล เฮกซิล ไอโซไทโอไซยาเนต (6 methylsulfinyl hexyl isothiocyanate:

ความปลอดภัยทางไซเบอร์ในยุคดิจิทัลสำคัญอย่างไร?

ความปลอดภัยทางไซเบอร์ในยุคดิจิทัลสำคัญอย่างไร?

ในยุคที่เทคโนโลยีและการเชื่อมต่อออนไลน์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์กลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นการปกป้องข้อมูลส่วนตัว ธุรกิจ หรือการทำธุรกรรมทางการเงิน การเพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูลช่วยป้องกันเราจากภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ 🛡️📱 ⚠️ เหตุผลที่ความปลอดภัยทางไซเบอร์มีความสำคัญ: 💡 เคล็ดลับง่ายๆ ในการเสริมความปลอดภัย: การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ เพื่อปกป้องข้อมูลและรักษาความปลอดภัยในโลกดิจิทัล 🌟🔐 🗣 ติดต่อสอบถามปรึกษาปัญหาวิจัย 📲 📲 LINE: @THESISTH 📞 TEL: 063-207-3864 ✉️

ปวดหัวกับงานวิจัยทำไงดี ?

ความปลอดภัยทางไซเบอร์ในยุคดิจิทัลสำคัญอย่างไร?

ให้เราช่วยคุณสิ 👍 เรามีทีมงาน และพร้อมบริการ วิจัย  วิทยานิพนธ์  สารนิพนธ์ ค้นคว้าอิสระ (IS) / เก็บข้อมูลแบบสอบถาม Online-Offline / บทความวิจัย  / วิชาการ แผนธุรกิจ การตลาด / ทำผลงาน  เลื่อนขั้น ตีพิมพ์  และอื่น ๆ  🗣