8 เทคนิคเขียนเรียงความให้ปังเร็วและถูกหลักอย่างไม่น่าเชื่อ !

“การเขียนเรียงความ” ถือเป็นหนึ่งในทักษะด้านภาษาที่ทุกคนควรมี เนื่องจากไม่ว่าจะเป็นการขอทุนสนับสนุน การสมัครเรียนในต่างประเทศ การสัมภาษณ์งาน และแม้แต่การเขียนงานวิทยานิพนธ์ (Thesis) สารนิพนธ์/การค้นคว้าอิสระ (Independent Study) หรือบทความวิจัยก็ล้วนแต่ต้องใช้ทักษะนี้ทั้งนั้น

อย่างไรก็ตาม เราเข้าใจดีว่าการเขียนอะไรสักอย่างไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากจะต้องทำให้ถูกต้องตามหลักภาษาแล้ว บางครั้งเราอาจความคิดติดตัน ทำให้งานออกมาล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็นจนนำไปสู่ความหงุดหงิดใจ

ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้คัดตัวช่วยเป็นเทคนิคเจ๋งๆกับ 8 เทคนิค เขียนเรียงความให้ปัง เร็ว และถูกหลักอย่างไม่น่าเชื่อ ! แถมยังนำไปใช้ได้อย่างหลากหลายอีกด้วย

pastedGraphic.png

1. เริ่มต้นเขียนเรียงความให้เร็วขึ้นกว่าที่ตั้งใจไว

จะช่วยลดความวิตกกังวล การผัดวันประกันพรุ่ง และช่วยให้คุณมีเวลาในการพัฒนาความคิดของคุณได้มากขึ้น

2. เก็บคำถามของเรียงความไว้ในใจ

อย่าลืมติดตามคำถาม หรืองานของคุณ โดยการเก็บสำเนาไว้ในขณะที่คุณร่าง และแก้ไข และกำลังหาข้อโต้แย้งเกี่ยวกับงานของตัวเอง

3. อย่าพยายามที่จะเขียงเรียงความตั้งแต่ต้นจนจบ

คุณควรเริ่มต้นเรียงความด้วยสิ่งที่คุณพร้อมที่จะเขียน ไม่ว่าจะเป็นแผนเรียงความ ประโยคสักสองประโยค คุณสามารถเริ่มต้นจากเนื้อเรื่องได้โดยการเขียนทีละย่อหน้า

4. เขียนบทนำและสรุปหลังจากที่คุณเขียนเนื้อหาเรียบร้อยแล้ว

เมื่อคุณรู้ว่าเรียงความของคุณเกี่ยวกับเรื่องอะไรแล้ว จากนั้นคุณถึงจะสามารถเขียนบทนำ และบทสรุปจากเรื่องนั้นได้

5. ใช้สัญลักษณ์ในการเขียนของคุณ

สัญญาณในเรียงความของคุณจะช่วยให้ผู้อ่านสามารถทำตามคำสั่ง และไหลไปตามไอเดียของคุณได้

6. รวบรวมข้อมูลและรายละเอียดของงานเขียนคุณอย่างรอบคอบ

เมื่อคุณเขียนเรียงความ คุณจำเป็นต้องรวบรวมข้อมูลต่างๆไว้ ไม่ว่าจะเป็น คำนำ การถอดความ และส่วนอื่นๆของเรียงความของคุณ

7. ทบทวนเรียงความฉบับร่างของคุณอย่างถี่ถ้วน

การทบทวนจะเป็นสิ่งที่ทำให้งานของคุณมีความเป็นลำดับ และถูกต้องมากยิ่งขึ้น

8. พักเรียงความของคุณไว้สักสองสามวัน

จะช่วยให้คุณสามารถพิจารณาเรียงความของคุณ และเกิดไอเดียใหม่ๆ ให้แก่งานของคุณมากขึ้น

และทั้งหมดนี้คือ 8 เทคนิค เขียนเรียงความให้ปัง เร็ว และถูกหลักอย่างไม่น่าเชื่อ ! ใครกำลังติดปัญหาการเขียนเรียงความไม่ลื่นไหล ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ดู เชื่อได้ว่าหากฝึกฝนเป็นประจำ การเขียนของคุณจะต้องกลายเป็นมืออาชีพและไม่ยากอีกต่อไปอย่างแน่นอน

Credit: https://bit.ly/39HHhXz

Share:

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
Share on linkedin
LinkedIn

ขอคำปรึกษา

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย

Table of Contents

On Key

Related Posts

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ Thesis Thailand ขอแนะนำการจัดตารางการอ่านหนังสือ ดังนี้ . 1. เลือกเวลาที่เหมาะสม เวลาที่เหมาะสมหมายความว่า เวลาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนชอบอ่านตอนเช้าตรู่ บางคนชอบอ่านตอนกลางคืนก่อนนอน บางคนชอบอ่านเวลากลางวัน แล้วแต่การจัดสรรเวลาของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน น้องต้องเลือกดูเวลาที่เหมาะสมของตัวเองนะ การจัดเวลาต้องให้ได้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง วันนึงถ้าอ่านหนังสือแค่วันละ 2 ชั่วโมงน้อยมาก . 2.

งานวิจัยเผย : คนฉลาดมักมีเพื่อนน้อยกว่าคนธรรม

งานวิจัยเผย : คนฉลาดมักมีเพื่อนน้อยกว่าคนธรรม

จากการศึกษางานวิจัยของ The British Journal of Psychology ทำการทดลองด้วยการสำรวจความเห็นของกลุ่มคนอายุ 18 ถึง 28 ปี จำนวนกว่า 15,000 คน ผลวิจัยพบว่า คนฉลาดหรือคนที่มีไอคิวสูง ๆ ที่จำนวนของกลุ่มเพื่อนมีผลกระทบต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก และคนฉลาดมักมีความพึงพอใจต่ำกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า นั่นแปลว่ายิ่งคุณฉลาดเท่าไหร่ คุณจะยิ่งไม่ชอบเข้าสังคมเลย . พบอีกว่าคนที่มีไอคิวสูงนั้นมักจะไม่ใช้เวลาไปกับการเข้าสังคมหรือใช้เวลากับเพื่อนมากนัก

งานวิจัยเผย : ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชาย

งานวิจัยเผย : ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชาย

จากการศึกษาเรื่องงานวิจัยที่น่าสนใจของ ดร.มุยเรียนน์ ไอริช นักประสาทวิทยาศาสตร์การรู้คิด จากสถาบันวิจัยประสาทวิทยาศาสตร์ออสเตรเลีย กล่าวว่าที่ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชายอาจเป็นเพราะผู้หญิงมักต้องทำงานที่ใช้ความจำในด้านบางอย่างมากกว่าผู้ชาย เช่น การตามตารางนัดหมาย หรือการตรวจสิ่งของต่างๆ ว่าเก็บไว้ตรงไหน ทำให้เหมือนเป็นการฝึกฝนไปในตัว . อีกทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษา & Holistic Medicine กล่าวว่าโครงสร้างของสมองระหว่างผู้ชายและผู้หญิงจะมีความแตกต่างกัน ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนเพศในช่วงตอนต้นของชีวิต โดยผู้หญิงจะมีสมองส่วน Hippocampus ทำหน้าที่เก็บความจำต่อเหตุการณ์ขนาดใหญ่กว่าผู้ชาย จึงเป็นสาเหตุให้ผู้หญิงสามารถจดจำเรื่องราวต่างๆ ได้มากกว่าและยังรวมถึงการระลึกเหตุการณ์เก่าๆ ที่สะเทือนจิตใจได้ดีกว่าผู้ชาย และขณะเดียวกันผู้ชายมักจะเก็บความทรงจำในภาพรวมหรือเหตุการณ์สำคัญๆมากกว่า

นักจิตวิทยาเผย : ระวังจิตพัง เพราะตามใจคนอื่น เป็นคนอะไรก็ได้

นักจิตวิทยาเผย : ระวังจิตพัง เพราะตามใจคนอื่น เป็นคนอะไรก็ได้

จากการศึกษาจาก แดรี่เลวานี จอห์นสัน (Darylevuanie Johnson) นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านการปรึกษาด้านจิตวิทยา กล่าวว่า คนที่ชอบเอาอกเอาใจผู้อื่นอยู่เสมอ หรือที่เรียกว่าเป็น People-Pleaser ที่ความพึงพอใจของคนอื่นมักจะมาก่อนของตัวเองเสมอ และคิดว่าตัวเองไม่มีอำนาจต่อรองใดๆ กับใครเลย เพราะการถูกปฏิเสธ ถูกโกรธ ถูกบอกเลิก หรือไม่ได้รับการยอมรับ . นับว่าเป็นเรื่องที่เจ็บปวดสำหรับคนประเภทนี้ ซึ่งหลายครั้งมันอาจถึงขั้นที่จะต้องแลกหรือเสียสละเวลา พลังงาน ความฝัน ความต้องการส่วนตัวของตัวเอง เพื่อทำให้คนอื่นมีความสุขมากที่สุด ทำให้พวกเขามักจะ