6 เครื่องมือในการทำแบบสำรวจออนไลน์ (Online Survey)

การออกแบบแนวทางในการทำแบบสำรวจ (Survey) ที่ดีจะช่วยให้คุณเก็บข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การบริการ การรับรู้ถึงความพึงพอใจของลูกค้า รวมไปถึงการรับรู้เกี่ยวกับตัวแบรนด์ในด้านอื่นๆ โดยผมได้รวมเครื่องมือดีๆที่จะช่วยให้คุณทำการสำรวจความคิดเห็นในแบบต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วผ่านระบบออนไลน์นั่นเอง ลองมาดูกันว่า 6 เครื่องมือในการทำแบบสำรวจออนไลน์ (Online Survey) นั้นมีอะไรบ้าง

1.               Google Forms

หลายๆคนน่าจะรู้จักกับ Google Forms เป็นอย่างดีเพราะเครื่องมือนี้ได้ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในการทำแบบสำรวจ แบบสอบถามความคิดเห็น โดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษาที่ต้องทำ IS หรือ Thesis ซึ่งการที่จะใช้ Google Forms ได้นั้นคุณต้องมีบัญชีของ Google ซะก่อน โดยเครื่องมือนี้ค่อนข้างใช้ง่ายและน่าจะชินมือหลายๆคน ที่สำคัญมันฟรีซะด้วย แต่อาจไม่สามารถทำแบบสอบถามที่สลับซับซ้อนมากๆได้

2.               SurveyMonkey

เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือทำแบบสำรวจออนไลน์ที่มีชื่อเสียงมากอันดับต้นๆของโลก ที่สามารถตั้งคำถามได้ 10 คำถามต่อการทำแบบสำรวจ 1 ครั้ง แบ่งเป็น 15 คำถาม และสามารถถามได้ 100 แบบสำรวจ มีการออกแบบมาให้ใช้งานง่ายสำหรับคนทั่วๆไป แต่หากซื้อเป็นแบบ Pro Version ก็สามารถทำแบบสอบถามได้ไม่มีกำหนดจำนวนคำถาม รวมถึงมีฟีเจอร์ใหม่ๆอื่นๆให้เล่นอีกด้วยตามแพคเกจราคาที่กำหนด

3.               Surveyplanet

อีกหนึ่งเครื่องมือที่ใช้งานง่ายรวดเร็วซึ่งมีให้ใช้งานฟรีและแบบเสียเงิน โดยฟีเจอร์ที่ใช้ฟรีนั้นก็ถือว่าเกือบจะครบเครื่องโดยสามารถตั้งคำถามได้ไม่จำกัด สร้างแบบสำรวจได้ไม่จำกัด และยังส่งถึงกลุ่มตัวอย่างได้อย่างไม่จำกัด แต่ก็ไม่สามารถสรุปผลออกมาเป็นรายงานได้ ซึ่งต้องเสียเงินซื้อเพิ่มเติมรวมไปถึงมีฟีเจอร์ใหม่ๆให้ใช้งาน

4.               FreeOnlineSurveys

จุดเด่นของ FreeOnlineSurveys นั้นคือคุณสามารถเลือกสร้างได้ทั้งแบบสำรวจ โพล การสร้าง Quiz ต่างๆผ่านหน้าหลักของเว็บได้ทันที โดยแบบฟรีนั้นสามารถสร้างได้ถึง 20 คำถาม สามารถส่งหากลุ่มตัวอย่างได้ไม่เกิน 50 คนต่อวัน ไม่จำกัดแบบสอบถาม แต่แบบเสียเงินคุณสามารถใช้ฟีเจอร์อื่นๆรวมไปถึงการส่งหากลุ่มตัวอย่างได้ 1,000 คนเลยทีเดียว

5.               Smart Survey

ตัว SmartSurvey สามารถสร้างทีมและแชร์ข้อมูลถึงกันได้ด้วยการตั้งรหัสผ่าน ซึ่งสามารถตั้งคำถามได้ถึง 15 คำถามแบบฟรีๆ กับกลุ่มเป้าหมายถึง 100 คนเลยทีเดียว มีรายงานผลเป็น Dashboard แบบสวยงาม และหากเสียเงินซื้อคุณยังสามารถตั้งคำถามได้อย่างไม่จำกัด และส่งถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว่า 1,500 คนค่ะ

6.               Survey Methods

ปิดท้ายด้วย SurveyMethods ที่ให้คุณแชร์การทำแบบสำรวจกับเพื่อนร่วมงาน และยังสามารถถาม Feedback จากเพื่อนร่วมทีมได้อีก ตัวเครื่องมือนี้สามารถอัพโหลดข้อมูลอีเมล์เพื่อส่งแบบสอบถามไปยังทุกคนได้ทีเดียว โดยแบบฟรีนั้นสามารถสร้างได้ 20 คำถาม และทำแบบสำรวจได้ 20 แบบ ส่งถึงกลุ่มเป้าหมายได้ 500 คน แต่หากอยากเพิ่มทุกอย่างเป็นแบบไม่มีขีดจำกัด รวมถึงฟีเจอร์เด็ดๆก็ต้องเสียเงินตามระเบียบ

หวังว่าตัวอย่างเครื่องมือทำแบบสอบถามออนไลน์ (Online Survey) ทั้งหมดนี้จะช่วยให้งานของคุณง่ายขึ้นนะคะ โดยแต่ละเครื่องมือนั้นบางอันก็สามารถใช้ภาษาไทยได้ยังไงก็ลองใช้ดูค่ะ อันที่จริงยังมีเครื่องมืออีกหลายตัวที่น่าสนใจและใช้งานง่าย หากใครรู้อะไรดีๆก็เอามาแบ่งปันกันได้นะคะ

Credit: https://bit.ly/3JN7HVk

Share:

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
Share on linkedin
LinkedIn

ขอคำปรึกษา

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย

Table of Contents

On Key

Related Posts

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ Thesis Thailand ขอแนะนำการจัดตารางการอ่านหนังสือ ดังนี้ . 1. เลือกเวลาที่เหมาะสม เวลาที่เหมาะสมหมายความว่า เวลาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนชอบอ่านตอนเช้าตรู่ บางคนชอบอ่านตอนกลางคืนก่อนนอน บางคนชอบอ่านเวลากลางวัน แล้วแต่การจัดสรรเวลาของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน น้องต้องเลือกดูเวลาที่เหมาะสมของตัวเองนะ การจัดเวลาต้องให้ได้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง วันนึงถ้าอ่านหนังสือแค่วันละ 2 ชั่วโมงน้อยมาก . 2.

งานวิจัยเผย : คนฉลาดมักมีเพื่อนน้อยกว่าคนธรรม

งานวิจัยเผย : คนฉลาดมักมีเพื่อนน้อยกว่าคนธรรม

จากการศึกษางานวิจัยของ The British Journal of Psychology ทำการทดลองด้วยการสำรวจความเห็นของกลุ่มคนอายุ 18 ถึง 28 ปี จำนวนกว่า 15,000 คน ผลวิจัยพบว่า คนฉลาดหรือคนที่มีไอคิวสูง ๆ ที่จำนวนของกลุ่มเพื่อนมีผลกระทบต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก และคนฉลาดมักมีความพึงพอใจต่ำกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า นั่นแปลว่ายิ่งคุณฉลาดเท่าไหร่ คุณจะยิ่งไม่ชอบเข้าสังคมเลย . พบอีกว่าคนที่มีไอคิวสูงนั้นมักจะไม่ใช้เวลาไปกับการเข้าสังคมหรือใช้เวลากับเพื่อนมากนัก

งานวิจัยเผย : ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชาย

งานวิจัยเผย : ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชาย

จากการศึกษาเรื่องงานวิจัยที่น่าสนใจของ ดร.มุยเรียนน์ ไอริช นักประสาทวิทยาศาสตร์การรู้คิด จากสถาบันวิจัยประสาทวิทยาศาสตร์ออสเตรเลีย กล่าวว่าที่ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชายอาจเป็นเพราะผู้หญิงมักต้องทำงานที่ใช้ความจำในด้านบางอย่างมากกว่าผู้ชาย เช่น การตามตารางนัดหมาย หรือการตรวจสิ่งของต่างๆ ว่าเก็บไว้ตรงไหน ทำให้เหมือนเป็นการฝึกฝนไปในตัว . อีกทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษา & Holistic Medicine กล่าวว่าโครงสร้างของสมองระหว่างผู้ชายและผู้หญิงจะมีความแตกต่างกัน ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนเพศในช่วงตอนต้นของชีวิต โดยผู้หญิงจะมีสมองส่วน Hippocampus ทำหน้าที่เก็บความจำต่อเหตุการณ์ขนาดใหญ่กว่าผู้ชาย จึงเป็นสาเหตุให้ผู้หญิงสามารถจดจำเรื่องราวต่างๆ ได้มากกว่าและยังรวมถึงการระลึกเหตุการณ์เก่าๆ ที่สะเทือนจิตใจได้ดีกว่าผู้ชาย และขณะเดียวกันผู้ชายมักจะเก็บความทรงจำในภาพรวมหรือเหตุการณ์สำคัญๆมากกว่า

นักจิตวิทยาเผย : ระวังจิตพัง เพราะตามใจคนอื่น เป็นคนอะไรก็ได้

นักจิตวิทยาเผย : ระวังจิตพัง เพราะตามใจคนอื่น เป็นคนอะไรก็ได้

จากการศึกษาจาก แดรี่เลวานี จอห์นสัน (Darylevuanie Johnson) นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านการปรึกษาด้านจิตวิทยา กล่าวว่า คนที่ชอบเอาอกเอาใจผู้อื่นอยู่เสมอ หรือที่เรียกว่าเป็น People-Pleaser ที่ความพึงพอใจของคนอื่นมักจะมาก่อนของตัวเองเสมอ และคิดว่าตัวเองไม่มีอำนาจต่อรองใดๆ กับใครเลย เพราะการถูกปฏิเสธ ถูกโกรธ ถูกบอกเลิก หรือไม่ได้รับการยอมรับ . นับว่าเป็นเรื่องที่เจ็บปวดสำหรับคนประเภทนี้ ซึ่งหลายครั้งมันอาจถึงขั้นที่จะต้องแลกหรือเสียสละเวลา พลังงาน ความฝัน ความต้องการส่วนตัวของตัวเอง เพื่อทำให้คนอื่นมีความสุขมากที่สุด ทำให้พวกเขามักจะ