5 ขั้นตอนเขียนวิทยานิพนธ์อย่างไรให้มีคุณภาพ !

วิทยานิพนธ์ หรือที่รู้จักกันดีว่า Thesis Paper หรือ Dissertation คือตัวชี้วัดความสำเร็จของนักเรียน นักศึกษาทั้งในระดับวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยในหลายๆ คณะ เรียกได้ว่าต้องทุ่มทั้งแรงกายและแรงใจให้กับรูปเล่มวิทยานิพนธ์นี้

โดยทั่วไปแล้ววิทยานิพนธ์ควรท้าทายคำถามทางปัญญา ในลักษณะโน้มน้าวใจ กระตุ้นให้เกิดการอภิปราย หรือโต้แย้งกับผู้อ่าน คำแนะนำต่อไปนี้จะช่วยให้นักเรียน นักศึกษาให้เขียนวิทยานิพนธ์อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ช่วยให้ผู้อ่านและอาจารย์เข้าใจในหัวข้อของคุณ เคล็ดลับ 5 ขั้นตอน เขียนวิทยานิพนธ์อย่างไรให้มีคุณภาพ มีดังนี้

1.  ร่างคำชี้แจงวิทยานิพนธ์ (Thesis Statement)

ส่วนนี้ถือเป็นส่วนสำคัญ เพราะ Thesis Statement คือการตั้งคำถามและใช้ชุดความรู้ที่เรียนมาทั้งหมด ทั้งหัวข้อที่เรียน หรือทฤษฎีที่ได้ปฏิบัติในหลักสูตร แล้วมาวิเคราะห์ว่าในท้ายที่สุดเกิดคำถามอะไรขึ้นบ้าง เช่น ความรู้ที่ได้รับเพียงพอหรือไม่? มีคำถามอะไรที่ยังไม่ได้รับคำตอบบ้าง? หรือมีข้อสงสัยอะไรอยู่ ก็สามารถนำมาตั้งเป็นหัวข้อวิทยานิพนธ์ได้

โดยเมื่อได้หัวข้อและคำถามที่ตอบโจทย์แล้วก็ควรอ่าน ค้นคว้าหาข้อมูล รวมถึงวิเคราะห์ วิจัยทุกอย่างที่สามารถทำได้เกี่ยวกับหัวข้อนี้ อาจขอความช่วยเหลือจากอาจารย์ที่ปรึกษา หรืออาจารย์บรรณารักษ์ว่าข้อมูลใดเหมาะสมสำหรับสิ่งที่หาอยู่ นอกเหนือจากการค้นหาข้อมูลทางออนไลน์ การอ่านฐานข้อมูลทางวิชาการ วารสาร และหนังสือจะเป็นประโยชน์อย่างมาก

ในขั้นตอนนี้ ยิ่งรวบรวมข้อมูลได้มากเท่าไหร่ก็จะยิ่งสร้างข้อโต้แย้งได้ง่าย และคำตอบของ Thesis Statement ก็ควรตอบได้อย่างง่ายๆ ซึ่งคำตอบนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ควรทำให้เข้าใจง่ายและชัดเจน เพื่อผู้อ่านจะได้เข้าใจและระบุได้ว่าประเด็นหลักของหัวข้อที่คุณทำคืออะไร

2. วางรูปแบบการเขียนโครงร่าง (Outline)

เพราะมีแนวคิดและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมากมายจากการค้นคว้าเบื้องต้น จึงทำให้การเขียนโครงร่างจึงสำคัญ แม้ว่าอาจารย์อาจจะไม่ได้บังคับให้ทำ แต่โครงร่างก็ยังเป็นเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ เพราะมันช่วยจัดการโครงสร้างวิทยานิพนธ์ให้เป็นระบบระเบียบ และไม่หลุดออกจากกรอบเนื้อหา

นอกจากนี้การเขียนโครงร่างยังช่วยแยกบทนำ และบทสรุปออกจากวิทยานิพนธ์อย่างชัดเจน ทำให้การเขียนรื่นไหล และผู้อ่านก็ไม่สะดุดในเนื้อหาอีกด้วย

ขณะจัดระเบียบก็ยังช่วยให้คุณวางแผนโครงร่างแต่ละพารากราฟ แต่ละย่อหน้า และแยกหัวข้อย่อยให้ดี โดยคุณจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า

3. รวบรวมหลักฐานและการวิจัยที่เกี่ยวข้อง

ใช้เวลาค้นคว้าหัวข้อของคุณอย่างจริงจัง การรวบรวมแหล่งข้อมูลระหว่าง 15-20 แหล่งเป็นหลักสำคัญในขั้นตอนนี้ ยิ่งค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถนำหลักฐานมาสนับสนุนหัวข้อและใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงได้อย่างน่าเชื่อถือ

4. เริ่มเขียน

ลองเริ่มลงมือเขียนอย่างจริงจังโดยอ้างอิงจากโครงร่างที่เขียนและหลักฐานที่ได้ แต่อย่าพยายามเขียนให้ดีหรือให้สมบูรณ์ทุกประโยค เพราะอาจทำให้เกิดการติดขัดจนไม่สามารถเขียนให้เสร็จได้

สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าวิทยานิพนธ์ที่มีประสิทธิภาพควรมีการอ้างอิงที่ชัดเจน สามารถโต้แย้งได้ รวมถึงต้องกระชับ น่าเชื่อถือ และเฉพาะเจาะจง เหล่านี้จะทำให้วิทยานิพนธ์ของคุณเข้มแข็งและมีอิทธิพลในการโน้มนาวผู้อ่าน

รวมถึงต้องยอมรับมุมมองของฝ่ายตรงข้าม และคาดการณ์การโต้แย้งไว้ล่วงหน้าว่าผู้อ่านจะแย้งอย่างไร ซึ่งหากคาดการณ์ได้ก็สามารถเขียนเนื้อหาเพิ่มเข้าไปในประเด็นที่ต้องการ นั่นจะยิ่งทำให้วิทยานิพนธ์ของคุณไม่ได้เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นแต่ได้รวบรวมประเด็นข้อโต้แย้งไว้แล้ว

5. จัดรูปแบบส่วนพิเศษเช่นภาคผนวก

เมื่อทั้งเนื้อหาและวิทยานิพนธ์ใกล้เสร็จสิ้น อีกส่วนที่น่าสนใจคือส่วนพิเศษ เช่น ภาคผนวก หรือบรรณานุกรม ซึ่งอาจเป็นไปตามรูปแบบเฉพาะ เช่น AP Style หรือ Chicago Style ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคำแนะนำที่คุณได้รับ และท้ายที่สุดคือการตรวจสอบทั้งเนื้อหา การสะกดคำ บทนำ สารบัญ บรรณานุกรม ฯลฯ ให้มั่นใจว่ามันอยู่ในรูปแบบที่ถูกต้องอีกครั้ง จากนั้นก็ส่งรูปเล่มได้เลย!

ไม่มีความรู้สึกใดที่ยิ่งใหญ่และโล่งใจไปกว่าการที่ส่งรูปเล่มวิทยานิพนธ์ที่คุณได้ลงแรงกายแรงใจเป็นเวลาหลายเดือนเพื่อทำให้เสร็จ เมื่อทำตาม 5 ขั้นตอน เขียนวิทยานิพนธ์อย่างไรให้มีคุณภาพ ที่เป็นประโยชน์เหล่านี้คุณจะมั่นใจได้ว่าวิทยานิพนธ์ของคุณได้นำเสนอข้อโต้แย้งที่น่าสนใจและหักล้างไม่ได้ที่นำเสนอทุกสิ่งที่คุณได้เรียนรู้

Credit: https://bit.ly/3OHx0u9

Share:

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
Share on linkedin
LinkedIn

ขอคำปรึกษา

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย

Table of Contents

On Key

Related Posts

วิจัยเผย : ความเครียดก่อโรคหัวใจสูงและเสี่ยงกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง

วิจัยเผย : ความเครียดก่อโรคหัวใจสูงและเสี่ยงกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง

จากการศึกษาของงานวิจัยในวารสารวิชาการด้านโรคหัวใจของยุโรป ยูโรเปียน ฮาร์ท เจอร์นัล ผลการวิจัยระบุว่าคนอายุต่ำกว่า 50 ปีลงมาซึ่งระบุว่างานของตัวเองเป็นงานที่เครียดมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจสูงกว่าคนที่ระบุว่างานที่ทำอยู่ไม่เครียดถึง 70% นอกจากการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลซึ่งแสดงถึงความรู้สึกของกลุ่มตัวอย่างต่องานของพวกเขาแล้วนักวิจัยยังได้ทำการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต และปริมาณฮอร์โมนความเครียดหรือ ฮอร์โมนชื่อคอร์ติซอล (cortisol)  จากตัวอย่างเลือดด้วยพบว่าความเครียดยังไปมีผลขัดขวางการขับฮอร์โมนของส่วนของระบบนิวโรเอนโดคริน (neuroendocrine system) จนทำให้ร่างกายมีการขับฮอร์เครียด หรือคอร์ติซอล ออกมาในตอนเช้าในระดับที่สูงกว่าปกติด้วย ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงจากความเครียด หรือ Broken Heart Syndrome พบมากในหญิงวัยกลางคน

งานวิจัยเผย : แม่เคยมีแฟนมาแล้วกี่คน ลูกก็จะมีแฟนจำนวนพอกันกับแม่

งานวิจัยเผย : แม่เคยมีแฟนมาแล้วกี่คน ลูกก็จะมีแฟนจำนวนพอกันกับแม่

จากการศึกษาของ Ohio State University พบว่าแม่อาจส่งผ่านบุคลิกภาพหรือทักษะด้านความสัมพันธ์บางอย่างจากรุ่นสู่รุ่น โดย Dr.Claire Kamp Dush ผู้ริเริ่มการศึกษานี้กล่าวว่า แม่ๆ แต่ละคนมีลักษณะนิสัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อการแต่งงานและความสัมพันธ์ ซึ่งลักษณะนิสัยเหล่านั้น จะกลายเป็นมรดกส่งต่อถึงรุ่นลูก โดยอาจเป็นตัวกำหนดว่าลูกจะได้แต่งงานช้าหรือเร็ว และมีความสัมพันธ์ที่มั่นคงหรือไม่  . ใครเคยคุยเรื่องความรักกับแม่บ้าง แล้วเคยนึกสงสัยรึเปล่า ว่าแม่ของเราเคยมีแฟนมาแล้วกี่คน? รู้ไหมว่าถ้าลองถามดูดีๆ อาจพบว่า จำนวนแฟนที่แม่เคยมี นั้นพอๆ

งานวิจัยเผย : ความสัมพันธ์ของคู่รักส่งผลต่อ ‘สุขภาพ’

งานวิจัยเผย : ความสัมพันธ์ของคู่รักส่งผลต่อ ‘สุขภาพ’

จากการศึกษาของทีมนักวิจัย มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาถึงพลวัตรของความสัมพันธ์ระยะยาว ผ่านวิธีคิดเชิงพื้นที่สัมพันธ์ (Spatial Proximity) และก็ค้นพบว่า เมื่อคู่รักหรือคู่แต่งงานนั้นมีความใกล้ชิดกัน อัตราการเต้นของหัวใจของพวกเขาจะประสานเข้าหากันในรูปแบบที่มีความซับซ้อน ตามแต่การปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน ไบรอัน โอกอลสกี้ รองศาสตราจารย์จากแผนกการพัฒนามนุษย์และครอบครัวศึกษา มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ระบุว่า นักวิจัยด้านความสัมพันธ์มักจะถามผู้คนว่าชีวิตเขาเป็นอย่างไรบ้าง และมักคิดว่าผู้คนเหล่านั้นจะสามารถจดจำหรือให้คำตอบได้อย่างลึกซึ้ง แต่กับผู้คนที่ใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันมานาน 30 – 40 ปี เมื่อถามถึงเรื่องเหล่านี้หรือพวกคำถามว่าพึงพอใจกับชีวิตคู่ขนาดไหน พวกเขามักจะหัวเราะใส่เสมอ

งานวิจัยเผย : อากาศหนาวทำให้อ้วนขึ้น

งานวิจัยเผย : อากาศหนาวทำให้อ้วนขึ้น

จากการศึกษาโดย พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล หรือ “หมอผิง” ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์การชะลอวัยและกูรูด้านสุขภาพบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก พบว่า อากาศหนาวอาจส่งผลให้คนเราหิวเก่งขึ้น โดยเฉพาะอาหารแคลอรี่สูง วิจัยในอเมริกาพบว่าคนน้ำหนักขึ้นเฉลี่ย 0.5-1 กก. ในฤดูหนาว เป็นผลจากกินเพิ่มขึ้นและออกกำลังน้อยลง . ผลกระทบที่เกิดต่อร่างกายจากอากาศหนาว ซึ่งอากาศที่หนาวเย็นอาจทำให้อุณหภูมิภายในร่างกายเปลี่ยนแปลงไป จนอาจเกิดความผิดปกติต่าง ๆ ขึ้น โดยเฉพาะในเด็ก ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพในระยะยาวอย่างโรคหัวใจ มีปัญหาสุขภาพจิต