4 ขั้นตอนการทบทวนวรรณกรรม (Literature Review)

การทบทวนวรรณกรรมคืออะไร ( What is a literature review? )

การทบทวนวรรณกรรมเป็นการสรุปโดยย่อ วิเคราะห์ และเรียบเรียงผลงานวิจัยที่เกี่ยวกับองค์ความรู้ที่คุณต้องการทำวิจัยจากอดีตจนถึงปัจจุบัน โดยการทบทวนวรรณกรรมนั้นจะทำให้เกิดความเข้าใจในหัวข้อที่คุณต้องการทำวิจัยมากขึ้น และทราบถึงผลการวิจัยที่ผู้รู้ทางสาขานี้ได้เคยทำไว้ก่อนแล้ว จุดประสงค์หลักคือการหาช่องว่างความรู้ในสาขาเฉพาะของคุณ จะเป็นการปล่าวประโยชน์ ถ้าจะทำวิจัยในสิ่งที่เป็นที่ประจักษ์ในวงการของคุณอยู่แล้วถึงผลของการวิจัยนั้นๆ แก่นของการทำวิจัยคือการค้นคว้าหาคำตอบของคำถามที่ไม่เคยมีผู้ใดค้นพบ โดยเฉพาะผู้ที่ทำวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอก คุณจำเป็นจะต้องทำการทบทวนวรรณกรรมอย่างรอบคอบเพราะหัวข้อของคุณต้องเป็นการวิจัยที่ไม่มีผู้ใดเคยทำมาก่อน อีกทั้งต้องอธิบายว่าสาขาความรู้ของคุณจะได้ประโยชน์อย่างไรจากผลวิจัยที่กำลังจะปฏิบัติ

โดยหลักการแล้ว Literature Review คือการค้นหา สรุปย่อ และวิเคราะห์ผลการวิจัยของผู้อื่นที่เคยได้ทำวิจัย (และถูกตีพิมพ์) ในหัวข้อที่เกี่ยวเนื่องกับหัวข้อวิทยานิพนธ์ของคุณ

ขั้นตอนการทบทวนวรรณกรรม

1. กำหนดปัญหา

สิ่งสำคัญคือการกำหนดปัญหาหรือพื้นที่ที่คุณต้องการทบทวบวรรณกรรม จำกัดขอบเขตของสิ่งที่คุณจะอ่าน

2. ดำเนินการค้นหาวัสดุที่เกี่ยวข้อง

วัสดุที่เกี่ยวข้องอาจมาจากสื่อดั่งต่อไปนี้ :

  • หนังสือ (monographs, ตำรา, หนังสืออ้างอิง)
  • บทความจากวารสารไม่ว่าจะพิมพ์หรืออิเล็กทรอนิกส์ (แต่ให้แน่ใจว่าวารสารอิเล็กทรอนิกส์ได้รับภายใต้กระบวนการตรวจสอบ peer)
  • บทความในหนังสือพิมพ์
  • บันทึกประวัติศาสตร์
  • รายงานการค้าและข้อมูลสถิติ
  • รายงานของรัฐและข้อมูลสถิติ
  • วิทยานิพนธ์และวิทยานิพนธ์
  • ชนิดข้อมูลอื่นที่อาจเกี่ยวข้องกับสาขาวิชาเฉพาะของคุณ

สถานที่ที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นการค้นหาก็คือห้องสมุดมหาวิทยาลัยหรือห้องสมุดท้องถิ่น ห้องสมุดส่วนใหญ่จะมีดัชนีวารสารเช่น Business Periodicals Index และบริการสาระสังเขปเช่น บทคัดย่อวิทยานิพนธ์ หากคุณไม่พบห้องสมุดวิชาการทีมีข้อมูลในเรื่องของคุณ คุณสามารถค้นหาทาง Internet ผ่านเครื่องมือค้นหา search engines ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เว็บไซต์ต่อไปนี้ให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในการค้นหาอินเทอร์เน็ต

เราขอแนะนำเว็บไซด์ต่อไปนี้ในการเริ่มต้นสำหรับมือใหม่

  • http://www.vtstutorials.co.uk//
  • http://www.lib.berkeley.edu/TeachingLib/Guides/Internet/FindInfo.html
  • https://www.deakin.edu.au/library/findout/research/litrev.php

3. หลักในการประเมินความน่าเชื่อถือของบทความและข้อมูลที่พบ

  • ชื่อเสียงในวงการของผู้เขียน พวกเขามีความเชี่ยวชาญในสาขานั้นหรือไม่ พวกเขาได้รับการรับรองร่จากองค์กรที่มีชื่อเสียงหรือไม่?
  • วันเวลาที่บทความหรือข้อมูลถูกตีพิมพ์
  • ถ้าเป็นหนังสือ เป็นรุ่นตีพิมพ์ล่าสุดหรือไม่?
  • หน่วยงานที่พิมพ์มีชื่อเสียงเป็นผู้เผยแพร่วิชาการที่ได้รับการยอมรับ?

4. ขั้นตอนสุดท้ายคือการจัดเขียนทบทวนวรรณกรรมทั้งหมดอย่างเป็นลำดับ

Introduction : กำหนดหัวข้อพร้อมด้วยเหตุผลของการเลือกหัวข้อ คุณยังสามารถชี้แนวโน้ม

Body : คุณเขียนเนื้อหาที่ส่วนนี้โดยอาจเรียงลำดับตาม 3 วิธีที่แนะนำดังนี้

  • Chronologically : เรียงตามลำดับปีของผลการวิจัย วิธีนี้ใช้ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดของผลที่เกิด กับกาลเวลา
  • Thematically : เรียงลำดับจากTheme ของเรื่องและความเกี่ยงเนื่องของตัวแปรในหัวข้อวิจัย
  • Methodologically : เรียงลำดับตามวิธีการที่ผู้ทำวิจัยนำมาใช้เช่น qualitative versus quantitative approaches.

Conclusion : สรุปย่อผลวิจัยที่สำคัญ ประเมินผลของการวิจัยหัวข้อของคุณในปัจจุบัน ชี้จุดด้อยในวิธีการที่ถูกนำมาใช้ ช่องว่างของความรู้ที่ขาดหายและความขัดแย้งระหว่างผลวิจัยที่ค้นพบและแนะนำส่วนที่ควรนำมาวิจัยในอนาคตอื่นๆนอกเหนือจากสิ่งที่คุณกำลังจะทำ

Credit : https://bit.ly/3EvHs38

#เรียนวิจัย #รับติวสอบ #รับปรึกษางานวิจัย #ทำdissertation #ทำthesis #ทำวิทยานิพนธ์ #ทำวิทยานิพนธ์ปตรี #ทำวิทยานิพนธ์ปโท #ทำวิทยานิพนธ์ปเอก #สอนโปรแกรมSPSS #รับทำงานวิจัย #ที่ปรึกษางานวิจัย #รับทำดุษฎีนิพนธ์ #รับติววิทยานิพนธ์ #รับติวธีสิส #รับติวสารนิพนธ์ #รับติววิจัย #รับติวงานวิจัย #รับสอนวิทยานิพนธ์ #รับสอนธีสิส #รับสอนสารนิพนธ์ #รับสอนวิจัย #รับสอนงานวิจัย #รับปรึกษาวิทยานิพนธ์ #รับปรึกษาธีสิส #รับปรึกษาสารนิพนธ์ #รับปรึกษาวิจัย #รับปรึกษางานวิจัย #รับติววิทยานิพนธ์ปตรี #รับติววิทยานิพนธ์ปโท #รับติววิทยานิพนธ์ปเอก #รับสอนวิทยานิพนธ์ปตรี #รับสอนวิทยานิพนธ์ปโท #รับสอนวิทยานิพนธ์ปเอก #รับปรึกษาวิทยานิพนธ์ปตรี #รับปรึกษาวิทยานิพนธ์ปโท #รับปรึกษาวิทยานิพนธ์ปเอก #สอนทำวิจัย ##รับสอนดุษฎีนิพนธ์ #รับติวดุษฎีนิพนธ์ #รับปรึกษาดุษฎีนิพนธ์ #ปรึกษาวิทยานิพนธ์ #ปรึกษาวิจัย #ปรึกษางานวิจัย #ทำวิจัยปโท #phdthesis #หัวข้อวิทยานิพนธ์ #รับทำdissertation #บริษัทรับทำวิจัย #รับเขียนบทความวิชาการ #thesiswriter #spssราคา #ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ #ทำวิจัยพยาบาล #รับปรึกษาวิจัย #ราคารับทำงานวิจัย

Share:

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
Share on linkedin
LinkedIn

ขอคำปรึกษา

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย

Table of Contents

On Key

Related Posts

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ Thesis Thailand ขอแนะนำการจัดตารางการอ่านหนังสือ ดังนี้ . 1. เลือกเวลาที่เหมาะสม เวลาที่เหมาะสมหมายความว่า เวลาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนชอบอ่านตอนเช้าตรู่ บางคนชอบอ่านตอนกลางคืนก่อนนอน บางคนชอบอ่านเวลากลางวัน แล้วแต่การจัดสรรเวลาของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน น้องต้องเลือกดูเวลาที่เหมาะสมของตัวเองนะ การจัดเวลาต้องให้ได้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง วันนึงถ้าอ่านหนังสือแค่วันละ 2 ชั่วโมงน้อยมาก . 2.

งานวิจัยเผย : คนฉลาดมักมีเพื่อนน้อยกว่าคนธรรม

งานวิจัยเผย : คนฉลาดมักมีเพื่อนน้อยกว่าคนธรรม

จากการศึกษางานวิจัยของ The British Journal of Psychology ทำการทดลองด้วยการสำรวจความเห็นของกลุ่มคนอายุ 18 ถึง 28 ปี จำนวนกว่า 15,000 คน ผลวิจัยพบว่า คนฉลาดหรือคนที่มีไอคิวสูง ๆ ที่จำนวนของกลุ่มเพื่อนมีผลกระทบต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก และคนฉลาดมักมีความพึงพอใจต่ำกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า นั่นแปลว่ายิ่งคุณฉลาดเท่าไหร่ คุณจะยิ่งไม่ชอบเข้าสังคมเลย . พบอีกว่าคนที่มีไอคิวสูงนั้นมักจะไม่ใช้เวลาไปกับการเข้าสังคมหรือใช้เวลากับเพื่อนมากนัก

งานวิจัยเผย : ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชาย

งานวิจัยเผย : ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชาย

จากการศึกษาเรื่องงานวิจัยที่น่าสนใจของ ดร.มุยเรียนน์ ไอริช นักประสาทวิทยาศาสตร์การรู้คิด จากสถาบันวิจัยประสาทวิทยาศาสตร์ออสเตรเลีย กล่าวว่าที่ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชายอาจเป็นเพราะผู้หญิงมักต้องทำงานที่ใช้ความจำในด้านบางอย่างมากกว่าผู้ชาย เช่น การตามตารางนัดหมาย หรือการตรวจสิ่งของต่างๆ ว่าเก็บไว้ตรงไหน ทำให้เหมือนเป็นการฝึกฝนไปในตัว . อีกทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษา & Holistic Medicine กล่าวว่าโครงสร้างของสมองระหว่างผู้ชายและผู้หญิงจะมีความแตกต่างกัน ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนเพศในช่วงตอนต้นของชีวิต โดยผู้หญิงจะมีสมองส่วน Hippocampus ทำหน้าที่เก็บความจำต่อเหตุการณ์ขนาดใหญ่กว่าผู้ชาย จึงเป็นสาเหตุให้ผู้หญิงสามารถจดจำเรื่องราวต่างๆ ได้มากกว่าและยังรวมถึงการระลึกเหตุการณ์เก่าๆ ที่สะเทือนจิตใจได้ดีกว่าผู้ชาย และขณะเดียวกันผู้ชายมักจะเก็บความทรงจำในภาพรวมหรือเหตุการณ์สำคัญๆมากกว่า

นักจิตวิทยาเผย : ระวังจิตพัง เพราะตามใจคนอื่น เป็นคนอะไรก็ได้

นักจิตวิทยาเผย : ระวังจิตพัง เพราะตามใจคนอื่น เป็นคนอะไรก็ได้

จากการศึกษาจาก แดรี่เลวานี จอห์นสัน (Darylevuanie Johnson) นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านการปรึกษาด้านจิตวิทยา กล่าวว่า คนที่ชอบเอาอกเอาใจผู้อื่นอยู่เสมอ หรือที่เรียกว่าเป็น People-Pleaser ที่ความพึงพอใจของคนอื่นมักจะมาก่อนของตัวเองเสมอ และคิดว่าตัวเองไม่มีอำนาจต่อรองใดๆ กับใครเลย เพราะการถูกปฏิเสธ ถูกโกรธ ถูกบอกเลิก หรือไม่ได้รับการยอมรับ . นับว่าเป็นเรื่องที่เจ็บปวดสำหรับคนประเภทนี้ ซึ่งหลายครั้งมันอาจถึงขั้นที่จะต้องแลกหรือเสียสละเวลา พลังงาน ความฝัน ความต้องการส่วนตัวของตัวเอง เพื่อทำให้คนอื่นมีความสุขมากที่สุด ทำให้พวกเขามักจะ