3 สิ่งที่ต้องรู้เพื่อทำวิทยานิพนธ์ให้สำเร็จ

การทํางานวิทยานิพนธ์แต่ละครั้ง สิ่งจําเป็นที่ผู้วิทยานิพนธ์ส่วนใหญ่ต้องคำนึงเป็นสิ่งสำคัญ มี 3 ปัจจัย คือ 

1. ควรเลือกหัวข้อเรื่องงานวิทยานิพนธ์ที่ตนเองถนัด

หัวข้อเรื่องงานวิทยานิพนธ์ เป็นสิ่งที่ต้องเริ่มพิจารณาเป็นอันดับแรก เนื่องจาก การเลือกสิ่งที่ตัวเองถนัดหรือสนใจนั้น จะทำให้ผู้วิจัยสามารถทำการค้นคว้าบนพื้นฐานความรู้ ความเข้าใจของตนเองได้เป็นอย่างดี

แต่มีหลายครั้งหรือหลายกรณีที่ผู้วิทยานิพนธ์ได้ทำหัวข้อเรื่องวิทยานิพนธ์ที่ตนเองไม่ถนัด 

สาเหตุมาจากอาจารย์ที่ปรึกษาคิดหัวข้อวิทยานิพนธ์ให้ เพราะสิ่งที่อาจารย์ที่ปรึกษาคิดหัวข้อวิทยานิพนธ์ให้ กับสิ่งที่ตนเองสนใจนั้น ไม่สอดคล้อง หรือว่ามีความคิดเห็นไม่ตรงกัน จีงอาจนำไปสู่ความล้มเหลวของงานวิทยานิพนธ์ได้ 

ฉะนั้น หากจะทํางานวิทยานิพนธ์ให้สําเร็จ จําเป็นที่จะต้องมีพื้นฐานความรู้ ความเข้าใจและตั้งหัวข้อวิทยานิพนธ์จากความต้องการของตนเองเป็นหลักก่อน

2. ควรเลือกอาจารย์ที่ปรึกษาที่มีความคิดเห็นสอดคล้องกับตนเอง

หัวข้อที่สอง คือ ต้องเลือกอาจารย์ที่ปรึกษาที่มีความคิดเห็นสอดคล้องกับตนเอง สามารถพูดคุย ให้คำแนะนํา สามารถจัดสรรแบ่งเวลาให้กับผู้วิทยานิพนธ์ได้เป็นอย่างดี

เนื่องจาก อาจารย์ที่ปรึกษางานวิทยานิพนธ์แต่ละท่านนั้น จะมีความถนัดแตกต่างกัน… 

ดังนั้น การเลือกอาจารย์ที่ปรึกษาจึงมีความสําคัญเป็นอย่างมากในการทำงานวิทยานิพนธ์ หากสามารถเลือกอาจารย์ที่ปรึกษาที่สามารถให้คําแนะนําหัวข้อวิทยานิพนธ์ที่ตนเอง มีความถนัดในสำหรับการให้คำปรึกษาแนะนำถึงหัวข้อประเด็นที่ตนเองสนใจดังกล่าวได้มากน้อยเพียงไร จะสามารถทําให้งานวิทยานิพนธ์สําเร็จลุล่วงไปได้โดยง่าย

3. ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษาหัวข้อวิทยานิพนธ์

ประเด็นที่สามคือ ต้องทําการศึกษา “ตัวแปร” หัวข้อวิทยานิพนธ์ โดยการศึกษาจากงานวิทยานิพนธ์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อวิทยานิพนธ์ที่จะทําการศึกษา

เนื่องจาก การศึกษาตัวแปรจากตัวอย่างงานวิทยานิพนธ์ ทฤษฎีแนวคิด หรือตัวอย่างงานวิทยานิพนธ์จากต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เพื่อนํามาสนับสนุนกับงานวิทยานิพนธ์ที่ตนเองสนใจ

ซึ่ง ต้องพิจารณาหลักเกณฑ์จาก ปี พ.ศ. ที่ไม่ต่ำกว่าสิบปี หรือทันสมัยมากกว่านั้น จะทําให้งานวิทยานิพนธ์ดังกล่าวมีคุณค่าในการที่จะนํามาศึกษาวิทยานิพนธ์ และสามารถนํามาอ้างอิง หรือศึกษาค้นคว้าข้อมูลเพิ่มเติมได้

จากสิ่งที่กล่าวไปดังกล่าวนี้ เป็นสิ่งที่ผู้วิทยานิพนธ์สมควรจะรู้ไว้สําเร็จก่อนลงมือทํางานวิทยานิพนธ์ครับ

Share:

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
Share on linkedin
LinkedIn

ขอคำปรึกษา

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย

Table of Contents

On Key

Related Posts

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ Thesis Thailand ขอแนะนำการจัดตารางการอ่านหนังสือ ดังนี้ . 1. เลือกเวลาที่เหมาะสม เวลาที่เหมาะสมหมายความว่า เวลาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนชอบอ่านตอนเช้าตรู่ บางคนชอบอ่านตอนกลางคืนก่อนนอน บางคนชอบอ่านเวลากลางวัน แล้วแต่การจัดสรรเวลาของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน น้องต้องเลือกดูเวลาที่เหมาะสมของตัวเองนะ การจัดเวลาต้องให้ได้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง วันนึงถ้าอ่านหนังสือแค่วันละ 2 ชั่วโมงน้อยมาก . 2.

งานวิจัยเผย : คนฉลาดมักมีเพื่อนน้อยกว่าคนธรรม

งานวิจัยเผย : คนฉลาดมักมีเพื่อนน้อยกว่าคนธรรม

จากการศึกษางานวิจัยของ The British Journal of Psychology ทำการทดลองด้วยการสำรวจความเห็นของกลุ่มคนอายุ 18 ถึง 28 ปี จำนวนกว่า 15,000 คน ผลวิจัยพบว่า คนฉลาดหรือคนที่มีไอคิวสูง ๆ ที่จำนวนของกลุ่มเพื่อนมีผลกระทบต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก และคนฉลาดมักมีความพึงพอใจต่ำกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า นั่นแปลว่ายิ่งคุณฉลาดเท่าไหร่ คุณจะยิ่งไม่ชอบเข้าสังคมเลย . พบอีกว่าคนที่มีไอคิวสูงนั้นมักจะไม่ใช้เวลาไปกับการเข้าสังคมหรือใช้เวลากับเพื่อนมากนัก

งานวิจัยเผย : ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชาย

งานวิจัยเผย : ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชาย

จากการศึกษาเรื่องงานวิจัยที่น่าสนใจของ ดร.มุยเรียนน์ ไอริช นักประสาทวิทยาศาสตร์การรู้คิด จากสถาบันวิจัยประสาทวิทยาศาสตร์ออสเตรเลีย กล่าวว่าที่ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชายอาจเป็นเพราะผู้หญิงมักต้องทำงานที่ใช้ความจำในด้านบางอย่างมากกว่าผู้ชาย เช่น การตามตารางนัดหมาย หรือการตรวจสิ่งของต่างๆ ว่าเก็บไว้ตรงไหน ทำให้เหมือนเป็นการฝึกฝนไปในตัว . อีกทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษา & Holistic Medicine กล่าวว่าโครงสร้างของสมองระหว่างผู้ชายและผู้หญิงจะมีความแตกต่างกัน ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนเพศในช่วงตอนต้นของชีวิต โดยผู้หญิงจะมีสมองส่วน Hippocampus ทำหน้าที่เก็บความจำต่อเหตุการณ์ขนาดใหญ่กว่าผู้ชาย จึงเป็นสาเหตุให้ผู้หญิงสามารถจดจำเรื่องราวต่างๆ ได้มากกว่าและยังรวมถึงการระลึกเหตุการณ์เก่าๆ ที่สะเทือนจิตใจได้ดีกว่าผู้ชาย และขณะเดียวกันผู้ชายมักจะเก็บความทรงจำในภาพรวมหรือเหตุการณ์สำคัญๆมากกว่า

นักจิตวิทยาเผย : ระวังจิตพัง เพราะตามใจคนอื่น เป็นคนอะไรก็ได้

นักจิตวิทยาเผย : ระวังจิตพัง เพราะตามใจคนอื่น เป็นคนอะไรก็ได้

จากการศึกษาจาก แดรี่เลวานี จอห์นสัน (Darylevuanie Johnson) นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านการปรึกษาด้านจิตวิทยา กล่าวว่า คนที่ชอบเอาอกเอาใจผู้อื่นอยู่เสมอ หรือที่เรียกว่าเป็น People-Pleaser ที่ความพึงพอใจของคนอื่นมักจะมาก่อนของตัวเองเสมอ และคิดว่าตัวเองไม่มีอำนาจต่อรองใดๆ กับใครเลย เพราะการถูกปฏิเสธ ถูกโกรธ ถูกบอกเลิก หรือไม่ได้รับการยอมรับ . นับว่าเป็นเรื่องที่เจ็บปวดสำหรับคนประเภทนี้ ซึ่งหลายครั้งมันอาจถึงขั้นที่จะต้องแลกหรือเสียสละเวลา พลังงาน ความฝัน ความต้องการส่วนตัวของตัวเอง เพื่อทำให้คนอื่นมีความสุขมากที่สุด ทำให้พวกเขามักจะ