How to จัดตารางการอ่านหนังสือ
How to จัดตารางการอ่านหนังสือ Thesis Thailand ขอแนะนำการจัดตารางการอ่านหนังสือ ดังนี้ . 1. เลือกเวลาที่เหมาะสม เวลาที่เหมาะสมหมายความว่า เวลาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนชอบอ่านตอนเช้าตรู่ บางคนชอบอ่านตอนกลางคืนก่อนนอน บางคนชอบอ่านเวลากลางวัน แล้วแต่การจัดสรรเวลาของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน น้องต้องเลือกดูเวลาที่เหมาะสมของตัวเองนะ การจัดเวลาต้องให้ได้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง วันนึงถ้าอ่านหนังสือแค่วันละ 2 ชั่วโมงน้อยมาก . 2. วางลำดับวิชาและเนื้อหา ขั้นตอนต่อมา คือ เลือกวิชาที่จะอ่าน มีหลักง่ายๆ คือ . 3. ลงมือทำ ยังไงถ้าไม่มีข้อนี้ก็ไม่มีทางสำเร็จ การลงมือทำคือการลงมืออ่านอย่างจริงจัง อย่าผัดวันประกันพรุ่ง อย่าฝากอนาคตของตัวเองไว้กับความขี้เกียจของวันนี้ บางคนลงมือทำ แต่ไม่จริงจัง ก็ไม่ได้นะ ขอให้นึกถึงชาวนาแล้วกัน ถ้าลงมือทำนาเริ่มตั้งแต่หว่าน ไถ แล้วทิ้งค้างไว้แต่ไม่ทำให้สำเร็จ ไม่ดูแลจนกระทั่งเก็บเกี่ยว หรือทิ้งไว้ไม่เก็บเกี่ยว การทำนาก็จะไม่สำเร็จ เราก็จะไม่มีข้าวกิน ดังนั้น ขอให้น้องๆ “ทำอะไร ทำจริง” แล้วกันนะ ทำให้ได้จริงๆ […]
งานวิจัยเผย : คนฉลาดมักมีเพื่อนน้อยกว่าคนธรรม
จากการศึกษางานวิจัยของ The British Journal of Psychology ทำการทดลองด้วยการสำรวจความเห็นของกลุ่มคนอายุ 18 ถึง 28 ปี จำนวนกว่า 15,000 คน ผลวิจัยพบว่า คนฉลาดหรือคนที่มีไอคิวสูง ๆ ที่จำนวนของกลุ่มเพื่อนมีผลกระทบต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก และคนฉลาดมักมีความพึงพอใจต่ำกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า นั่นแปลว่ายิ่งคุณฉลาดเท่าไหร่ คุณจะยิ่งไม่ชอบเข้าสังคมเลย . พบอีกว่าคนที่มีไอคิวสูงนั้นมักจะไม่ใช้เวลาไปกับการเข้าสังคมหรือใช้เวลากับเพื่อนมากนัก อาจเป็นเพราะพวกเขามักจะโฟกัสไปที่เป้าหมายของชีวิตในระยะยาว จึงจะให้ความสำคัญกับการสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากกว่า เพราะฉะนั้นความสัมพันธ์ของกลุ่มเพื่อนจะถูกตัดออกเหลือแต่คนคุณภาพมากกว่าการเน้นปริมาณ ซึ่งความจริงแล้วคนฉลาดนั้นก็ให้ความสำคัญกับการมีเพื่อนและสังคมวงในคล้าย ๆ กับคนทั่วไป แต่ว่าอย่างที่บอกไปว่า กลุ่มคนเหล่านี้จะมีความเลือกมาก เลือกเยอะ เพราะพวกเขาเน้นการใช้เวลาและใช้ชีวิตให้คุ้มค่ามากที่สุด การแบ่งเวลาจึงเป็นเรื่องสำคัญ ทำให้เวลาในการเข้าสังคมหรือเวลาที่ต้องใช้สังสรรค์ต่าง ๆ จะต้องลดน้อยลงตามไปด้วย เหลือเพียงเพื่อนที่พวกเขาให้ความสำคัญเท่านั้น . อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนฉลาดเหล่านี้รักเป้าหมายส่วนตัวที่ยิ่งใหญ่ที่จะต้องก้าวไปให้ถึงให้ได้ ไม่ได้มีเพื่อนน้อย แต่พวกเขาตั้งใจเลือกคบเพื่อนเพียงไม่กี่คนที่สำคัญต่อพวกเขาเพียงเท่านั้น และหวังว่าข้อมูลงานวิจัยนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณ หากคุณสนใจหรือต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องของงานวิจัยนี้สามารถสอบถามกับทาง Thesis Thailand เพราะเรามีผู้เชี่ยวชาญด้านงานวิจัยที่พร้อมซัพพอร์ตคุณ . ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจากเว็บ https://www.lifehack.org/408873/scientists-explain-why-smart-people-prefer-fewer-friends และ https://www.wongnai.com/articles/smart-people-prefer-fewer-friends
งานวิจัยเผย : ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชาย
จากการศึกษาเรื่องงานวิจัยที่น่าสนใจของ ดร.มุยเรียนน์ ไอริช นักประสาทวิทยาศาสตร์การรู้คิด จากสถาบันวิจัยประสาทวิทยาศาสตร์ออสเตรเลีย กล่าวว่าที่ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชายอาจเป็นเพราะผู้หญิงมักต้องทำงานที่ใช้ความจำในด้านบางอย่างมากกว่าผู้ชาย เช่น การตามตารางนัดหมาย หรือการตรวจสิ่งของต่างๆ ว่าเก็บไว้ตรงไหน ทำให้เหมือนเป็นการฝึกฝนไปในตัว . อีกทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษา & Holistic Medicine กล่าวว่าโครงสร้างของสมองระหว่างผู้ชายและผู้หญิงจะมีความแตกต่างกัน ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนเพศในช่วงตอนต้นของชีวิต โดยผู้หญิงจะมีสมองส่วน Hippocampus ทำหน้าที่เก็บความจำต่อเหตุการณ์ขนาดใหญ่กว่าผู้ชาย จึงเป็นสาเหตุให้ผู้หญิงสามารถจดจำเรื่องราวต่างๆ ได้มากกว่าและยังรวมถึงการระลึกเหตุการณ์เก่าๆ ที่สะเทือนจิตใจได้ดีกว่าผู้ชาย และขณะเดียวกันผู้ชายมักจะเก็บความทรงจำในภาพรวมหรือเหตุการณ์สำคัญๆมากกว่า ซึ่งตรงข้ามกับผู้หญิงที่มักจะจดจำรายละเอียดของเหตุการณ์และอารมณ์ความรู้สึกในขณะนั้น . อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้เป็นผลการวิจัยที่ไม่ได้ทดลองกับคนทั่วโลก ดังนั้นยังอาจมีข้อวิจัยอื่นๆ ที่สามารถนำมาหักล้างเพิ่มเติมได้ และหวังว่าข้อมูลงานวิจัยนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณ หากคุณสนใจหรือต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องของงานวิจัยนี้สามารถสอบถามกับทาง Thesis Thailand เพราะเรามีผู้เชี่ยวชาญด้านงานวิจัยที่พร้อมซัพพอร์ตคุณ . ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจากเว็บ https://www.mangozero.com/research-says-women-have-better-memory-than-men/
นักจิตวิทยาเผย : ระวังจิตพัง เพราะตามใจคนอื่น เป็นคนอะไรก็ได้
จากการศึกษาจาก แดรี่เลวานี จอห์นสัน (Darylevuanie Johnson) นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านการปรึกษาด้านจิตวิทยา กล่าวว่า คนที่ชอบเอาอกเอาใจผู้อื่นอยู่เสมอ หรือที่เรียกว่าเป็น People-Pleaser ที่ความพึงพอใจของคนอื่นมักจะมาก่อนของตัวเองเสมอ และคิดว่าตัวเองไม่มีอำนาจต่อรองใดๆ กับใครเลย เพราะการถูกปฏิเสธ ถูกโกรธ ถูกบอกเลิก หรือไม่ได้รับการยอมรับ . นับว่าเป็นเรื่องที่เจ็บปวดสำหรับคนประเภทนี้ ซึ่งหลายครั้งมันอาจถึงขั้นที่จะต้องแลกหรือเสียสละเวลา พลังงาน ความฝัน ความต้องการส่วนตัวของตัวเอง เพื่อทำให้คนอื่นมีความสุขมากที่สุด ทำให้พวกเขามักจะ ‘ให้ไป’ มากกว่าที่ตัวเอง ‘ได้รับ’ และการมีนิสัย People-Pleaser ค่อนข้างสร้างปัญหาให้กับความสัมพันธ์ เพราะมันทำให้ไม่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่และต้องตอบสนองความต้องการคนอื่นตลอดเวลา . ฉะนั้น หากคุณค้นพบว่าคุณคือ People-Pleaser และเหนื่อยกับชีวิต และ อาจจะมีแนวโน้มที่ต้องเผชิญ “อาการซึมเศร้า” ถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องปรับเปลี่ยนและลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อตัวเอง โดยสิ่งที่ควรเริ่มต้นทำ คือการพูดว่า “ไม่” กับคนอื่น ๆ และพูดว่า “ใช่” กับตัวเราเอง และหวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณ หากคุณสนใจหรือต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องจากบทความนี้สามารถสอบถามกับทาง Thesis Thailand เพราะเรามีผู้เชี่ยวชาญด้านงานวิจัยที่พร้อมซัพพอร์ตคุณ . […]