การสอบปากเปล่าวิทยานิพนธ์

การสอบปากเปล่าวิทยานิพนธ์

การสอบปากเปล่าวิทยานิพนธ์เป็นกิจกรรมที่ดำเนินการหลังจากที่นิสิต นักศึกษาได้วิเคราะห์ข้อมูล แปลความ ตีความ เขียนรายงานการวิจัย เสนออาจารย์ควบคุมวิทยานิพนธ์หรืออาจารย์ที่ปรึกษา ปรับปรุงแก้ไขตามข้อชี้แนะของอาจารย์ควบคุมวิทยานิพนธ์จนเป็นที่พอใจจึงดำเนินการขอสอบปากเปล่าต่อไป

    เพื่อให้การสอบปากเปล่าวิทยานิพนธ์สัมฤทธิ์ผลอย่างดี ควรทำสรุปสาระสำคัญของผลการวิจัยและปฏิบัติตามข้อเสนอแนะในการสอบปากเปล่าวิมยานิพนธ์ดังนี้

5.1 การทำสรุปสาระสำคัญของผลการวิจัย

    ก่อนขึ้นสอบปากเปล่าวิมยานิพนธ์ นิสิต นักศึกษาควรทำสรุปสาระสำคัญของผลการวิจัย ลงในแผ่นกระดาษขนาด A4 ไม่เกิน 1 หน้า โดยมีสาระผลการวิจัยทั้งหมด ส่วนนี้จะเป็นประโยชน์ช่วยให้เข้าใจเรื่องวิจัยอย่างชัดเจน สามารถนำไปดูแล้วอธิบายการวิจัยและสรุปผลการวิจัยได้อย่างกระชับและครบถ้วนโดยไม่ต้องเปิดอ่านในเล่มวิทยานิพนธ์ หลักการในการทำสรุปสาระสำคัญของผลการวิจัยมีดังนี้

1.สรุปลงในในแผนกระดาษเพียงแผนเดียวให้คลอบคลุมสาระสำคัญของการวิจัยทั้งหมด

2.อาจใช้แผนผังความคิด (Mind Mapping) หรือผังมโนทัศน์ (Concept Map) ในการสรุปสาระสำคัญของการวิจัย

3.อาจใช้คำย่อ สัญลักษณ์ และตารางช่วยให้สรุปอย่างเป็นระบบตามความจำเป็นได้

5.2ข้อเสนอแนะการสอบปากเปล่าวิทยานิพนธ์

    มีข้อเสนอแนะและข้อสังเกตเกี่ยวกับการสอบปากเปล่าวิทยานิพนธ์ดังนี้

5.2.1 ในการสอบเค้าโครงวิทยานิพนธ์ ถ้านิสิต นักศึกษาได้เสนอเค้าโครงที่เหมาะสมละเอียด ชัดเจน รอบคอบ รัดกุมในทุกส่วนแล้วก็จะเป็นประโยนช์มาก เพราะเค้าโครงดังกล่าว เป็นเงื่อนไขที่จะต้องปฏิบัติตาม ทำให้ผู้วิจัยมีความชัดเจน เป็นการป้องกันปัญหาต่างๆ ที่จะตาม ถ้าเค้าโครงไม่ชัดเจนแล้ว เมื่อดำเนินการศึกษาค้นคว้าก็จะพบปัญหายากต่อการตัดสินใจ อาจเกิดข้อขัดแย้ง อาจต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งจะก่อให้เกิดความยุ่งยากตามมามากมาย ส่งผลให้มีปัญหาในการสอบปากเปล่าด้วย

5.2.2 นิสิต นักศึกษาจะต้องเตรียมความพร้อมในการสอบปากเปล่าอย่างดีเยี่ยม โดยเตรียมการนำเสนอผลการศึกษาค้นคว้าให้กระชับ รัดกุม เข้าใจง่าย น่าสนใจ ด้วยความคล่องแคลวถูกต้องแม่นยำ รวมทั้งเตรียมตอบคำถามต่างๆ ที่แสดงถึงการมีความรอบรู้ในเรื่องที่ทำวิทยานิพนธ์ ทั้งนี้ต้องมีตัวรายงานวิทยานิพนธ์ที่มีความสมบูรณ์

    จากประสบการของผู้เขียนที่ผ่านพบว่า นิสิต นักศึกษาเตรียมตัวมายังไม่ดีพอ ตัวรายงานมีความบกพร่องหลายแห่ง การนำเสนอไม่น่าสนใจ บางคนเสนอโดยการอ่านจากเอกสารที่เตรียมมา การตอบคำถามบางครั้งไม่ตรงประเด็นหรือตอบไม่ได้ โดยเฉพาะในคำตอบที่เป็นการประเมินความรู้ ความเข้าใจในวิชาการ หลักการ ทั้งนี้เนื่องจาก ขาดความรอบรู้อย่างแท้จริง เตรียมตัวมาน้อย นิสิต นักศึกษาควรวางแผนและดำเนินการให้สามารถเขียนรายงานให้เสร็จสมบูรณ์โดยที่เหลือเวลาพอควรสำหรับเตรียมตัวสอบปากเปล่าวิทยานิพนธ์ เช่นมีเวลาเตรียมตัวก่อบสอบ 10 วัน เป็นต้น และควรซักซ้อมด้วยตัวเองให้แคล่งโดยเฉพาะถ้าได้ซักซ้อมกับอาจารย์ผู้ควบคุมวิทยานิพนธ์ส่วนสำคัญจะช่วยได้มาก

5.2.3 ด้านกรรมการสอบปากเปล่าวิทยานิพนธ์ กรรมการสอบปากเปล่าวิทยานิพนธ์โดยทั่วไปประกอบด้วยอาจารย์ผู้ควบคุมหรืออาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์และกรรมการจากภายนอก กรรมการจากภายนอกมีจำนวนเท่ากันกับอาจารย์ที่ปรึกษาหรือมากกว่า มหาวิทยาลัยบางแห่งตั้งกรรมการสอบปากเปล่าจากภายนอกทั้งหมด ไม่มีอาจารย์ควบคุมวิทยานิพนธ์หรืออาจารย์ที่ปรึกษาร่วมเป็นกรรมการสอบ ข้อดีของการแต่งตั้งอาจารย์ภายนอกที่มาจากกรรมการสอบเค้าโครงวิทยานิพนธ์ก็คือ ได้ทราบถึงเงื่อนไข ข้อตกตกลงต่างๆที่ได้พิจารณาเมื่อครั้งสอบเค้าโครงวิทยานิพนธ์

5.2.4โดยทั่วไปจะแบ่งการสอบปากเปล่าวิทยานิพนธ์ออกเป็น 3 ขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 จะให้นิสิต นักศึกษารายงานถึงการศึกษาค้นคว้าที่ได้ดำเนินการ อาจให้กล่าวเฉพาะประเด็นที่สำคัญ เช่นเหตุผลที่เลือกค้นคว้าในเรื่องนั้น วิการดำเนินการวิจัยศึกษาค้บคว้า ผลของการศึกษาค้นคว้า การอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ ในขั้นตอนนี้อาจนำเสนอโดยใช้สื่อต่างๆ เช่น แผ่นใส เป็นต้น

ขั้นตอนที่ 2 กรรมการสอบจะถามข้อสงสัย สอบถามเพื่อตรวจสอบความรู้ความเข้าใจของผู้ทำวิทยานิพนธ์ แม้กระทั้งทักท้วงโต้แย้งในประเด็นต่างๆ ที่อาจเป็นข้อผิดพลาดของรายงานการวิจัยเพื่อให้มีการแก้ไขให้ถูกต้องต่อไป

ขั้นตอนที่ 3 กรรมสอบพิจารณษประเมินผลการสอบปากเปล่า

5.2.5 การพิจารณาคุณภาพของรายงานวิทยานิพนธืพิจารณาในหลายๆประเนดังนี้

– ด้านคัณภาพทั่วไป – ด้านความคงเส้นคงวาในการเขียน -ด้านความสำพันธ์ระหว่างชื่อเรื่อง ความมุ่งหมาย ผลการศึกษา -ด้านการอ้างอิง -ด้านบทคัดย่อ -การอภิปราย – ด้านข้อเสนอแนะ

Share:

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
Share on linkedin
LinkedIn

ขอคำปรึกษา

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย

Table of Contents

On Key

Related Posts

วิจัยเผย : ความเครียดก่อโรคหัวใจสูงและเสี่ยงกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง

วิจัยเผย : ความเครียดก่อโรคหัวใจสูงและเสี่ยงกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง

จากการศึกษาของงานวิจัยในวารสารวิชาการด้านโรคหัวใจของยุโรป ยูโรเปียน ฮาร์ท เจอร์นัล ผลการวิจัยระบุว่าคนอายุต่ำกว่า 50 ปีลงมาซึ่งระบุว่างานของตัวเองเป็นงานที่เครียดมีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจสูงกว่าคนที่ระบุว่างานที่ทำอยู่ไม่เครียดถึง 70% นอกจากการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลซึ่งแสดงถึงความรู้สึกของกลุ่มตัวอย่างต่องานของพวกเขาแล้วนักวิจัยยังได้ทำการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ความดันโลหิต และปริมาณฮอร์โมนความเครียดหรือ ฮอร์โมนชื่อคอร์ติซอล (cortisol)  จากตัวอย่างเลือดด้วยพบว่าความเครียดยังไปมีผลขัดขวางการขับฮอร์โมนของส่วนของระบบนิวโรเอนโดคริน (neuroendocrine system) จนทำให้ร่างกายมีการขับฮอร์เครียด หรือคอร์ติซอล ออกมาในตอนเช้าในระดับที่สูงกว่าปกติด้วย ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงจากความเครียด หรือ Broken Heart Syndrome พบมากในหญิงวัยกลางคน

งานวิจัยเผย : แม่เคยมีแฟนมาแล้วกี่คน ลูกก็จะมีแฟนจำนวนพอกันกับแม่

งานวิจัยเผย : แม่เคยมีแฟนมาแล้วกี่คน ลูกก็จะมีแฟนจำนวนพอกันกับแม่

จากการศึกษาของ Ohio State University พบว่าแม่อาจส่งผ่านบุคลิกภาพหรือทักษะด้านความสัมพันธ์บางอย่างจากรุ่นสู่รุ่น โดย Dr.Claire Kamp Dush ผู้ริเริ่มการศึกษานี้กล่าวว่า แม่ๆ แต่ละคนมีลักษณะนิสัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อการแต่งงานและความสัมพันธ์ ซึ่งลักษณะนิสัยเหล่านั้น จะกลายเป็นมรดกส่งต่อถึงรุ่นลูก โดยอาจเป็นตัวกำหนดว่าลูกจะได้แต่งงานช้าหรือเร็ว และมีความสัมพันธ์ที่มั่นคงหรือไม่  . ใครเคยคุยเรื่องความรักกับแม่บ้าง แล้วเคยนึกสงสัยรึเปล่า ว่าแม่ของเราเคยมีแฟนมาแล้วกี่คน? รู้ไหมว่าถ้าลองถามดูดีๆ อาจพบว่า จำนวนแฟนที่แม่เคยมี นั้นพอๆ

งานวิจัยเผย : ความสัมพันธ์ของคู่รักส่งผลต่อ ‘สุขภาพ’

งานวิจัยเผย : ความสัมพันธ์ของคู่รักส่งผลต่อ ‘สุขภาพ’

จากการศึกษาของทีมนักวิจัย มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาถึงพลวัตรของความสัมพันธ์ระยะยาว ผ่านวิธีคิดเชิงพื้นที่สัมพันธ์ (Spatial Proximity) และก็ค้นพบว่า เมื่อคู่รักหรือคู่แต่งงานนั้นมีความใกล้ชิดกัน อัตราการเต้นของหัวใจของพวกเขาจะประสานเข้าหากันในรูปแบบที่มีความซับซ้อน ตามแต่การปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน ไบรอัน โอกอลสกี้ รองศาสตราจารย์จากแผนกการพัฒนามนุษย์และครอบครัวศึกษา มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ระบุว่า นักวิจัยด้านความสัมพันธ์มักจะถามผู้คนว่าชีวิตเขาเป็นอย่างไรบ้าง และมักคิดว่าผู้คนเหล่านั้นจะสามารถจดจำหรือให้คำตอบได้อย่างลึกซึ้ง แต่กับผู้คนที่ใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันมานาน 30 – 40 ปี เมื่อถามถึงเรื่องเหล่านี้หรือพวกคำถามว่าพึงพอใจกับชีวิตคู่ขนาดไหน พวกเขามักจะหัวเราะใส่เสมอ

งานวิจัยเผย : อากาศหนาวทำให้อ้วนขึ้น

งานวิจัยเผย : อากาศหนาวทำให้อ้วนขึ้น

จากการศึกษาโดย พญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล หรือ “หมอผิง” ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์การชะลอวัยและกูรูด้านสุขภาพบนโซเชียลเน็ตเวิร์ก พบว่า อากาศหนาวอาจส่งผลให้คนเราหิวเก่งขึ้น โดยเฉพาะอาหารแคลอรี่สูง วิจัยในอเมริกาพบว่าคนน้ำหนักขึ้นเฉลี่ย 0.5-1 กก. ในฤดูหนาว เป็นผลจากกินเพิ่มขึ้นและออกกำลังน้อยลง . ผลกระทบที่เกิดต่อร่างกายจากอากาศหนาว ซึ่งอากาศที่หนาวเย็นอาจทำให้อุณหภูมิภายในร่างกายเปลี่ยนแปลงไป จนอาจเกิดความผิดปกติต่าง ๆ ขึ้น โดยเฉพาะในเด็ก ผู้สูงอายุ สตรีมีครรภ์ ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพในระยะยาวอย่างโรคหัวใจ มีปัญหาสุขภาพจิต