โมเดล Soft Power จากเกาหลีใต้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทยในอนาคต

โมเดล Soft Power จากเกาหลีใต้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจประเทศไทยในอนาคต

เนื่องจากการพัฒนาของนโยบายส่งเสริม Soft Power ของเกาหลีใต้ คือปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ GDP ของเกาหลีใต้เติบโตอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่า จากอัตราการขยายตัวของ GDP ของเกาหลีใต้ โดยในปี2541 ก่อนเริ่มนโยบาย Hallyu Industry Support Development Plan ของรัฐบาลประธานาธิบดีคิมแดจุง ภาพรวมของGDP เกาหลีใต้คิดเป็นมูลค่า 3.83 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และในปี 2563 เพิ่มสูงขึ้นเป็น 1.63 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าในเวลา 20 กว่าปี 

.

นอกจากนี้ สัดส่วนของอุตสาหกรรมการบริการก็เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อเทียบกับปี 2553 สัดส่วนของอุตสาหกรรมบริการต่อ GDP เกาหลีใต้ อยู่ที่ร้อยละ 54.7 และ เพิ่มเป็นร้อยละ 57.2 ในปี 2563 ซึ่งในช่วงปีหลังจากความสำเร็จของศิลปิน K-pop ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก กระแสนิยม K-pop ก็ได้กระทบต่อตลาดและธุรกิจในไทยอย่างมาก ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้:

.

  • ตลาดเสื้อผ้าและสินค้าเกี่ยวข้อง: ศิลปิน K-pop เป็นแรงบันดาลใจสำคัญทางด้านแฟชั่นและสไตล์ชีวิตสำหรับคนรุ่นใหม่ในไทย จึงส่งผลให้ตลาดเสื้อผ้า K-pop เติบโตอย่างรวดเร็ว มีร้านค้าออนไลน์และร้านค้าที่ขายสินค้า K-pop หรือสินค้าที่ทำมาให้เกี่ยวข้องกับศิลปิน K-pop เพิ่มขึ้นมากมายไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า อุปกรณ์แต่งหน้า ของเล่น และสินค้าอื่น ๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปิน K-pop นั้นเอง
  • การแสดงสดและคอนเสิร์ต: คอนเสิร์ตของศิลปิน K-pop เป็นที่นิยมอย่างมากในไทย ซึ่งบริษัทบันเทิงจากเกาหลีใต้มักจัดคอนเสิร์ตของศิลปิน K-pop ในประเทศไทยอย่างสม่ำเสมอ มีผู้สนใจและแฟนคลับมากมายที่จะไปชมคอนเสิร์ตเหล่านี้ ส่งผลให้ตลาดการแสดงสดและคอนเสิร์ตในไทยเติบโตขึ้นอย่างมาก
  • อุตสาหกรรมบันเทิงและสื่อ: การกระจายข่าวสารและสื่อต่าง ๆ เกี่ยวกับศิลปิน K-pop ได้รับความสนใจจากคนไทยอย่างมาก ผ่านทางโซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์มวิทยุ โทรทัศน์ และสื่ออื่น ๆ ซึ่งส่งผลให้มีการเพิ่มเติมบริษัทที่มีความสัมพันธ์กับอุตสาหกรรมบันเทิงในเกาหลีใต้เข้ามาในตลาดไทย
  • การท่องเที่ยวและกิจกรรม: ความนิยม K-pop ได้ส่งผลให้มีการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องกับศิลปิน K-pop หรือเจ้าของแบรนด์ K-pop ในไทย ซึ่งมีการจัดค่ายฝึกอบรมเพื่อเตรียมความพร้อมในวงการบันเทิง และมีการจัดงานแฟนมีตติ้ง (fan meeting) หรืองานแฟนคลับอื่น ๆ เพื่อตอบรับความสนใจของแฟนคลับในไทย

.

ดังนั้น กระแสนิยม K-pop ได้มีผลต่อตลาดและธุรกิจในไทยอย่างมากในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าคอนเสิร์ต อุตสาหกรรมบันเทิง และกิจกรรมท่องเที่ยว อาจารย์ของเราหวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณ หากคุณสนใจเรื่อง K-pop หรือต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อมูล Soft Power จากเกาหลีใต้สอบถามกับทาง Thesis Thailand เพราะเราที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านงานวิจัยที่พร้อมซัพพอร์ตคุณ

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจากเว็บ https://www.pptvhd36.com/news/สังคม/170763 และhttps://marketeeronline.co/archives/277830

Share:

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
Share on linkedin
LinkedIn

ขอคำปรึกษา

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย

Table of Contents

On Key

Related Posts

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ Thesis Thailand ขอแนะนำการจัดตารางการอ่านหนังสือ ดังนี้ . 1. เลือกเวลาที่เหมาะสม เวลาที่เหมาะสมหมายความว่า เวลาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนชอบอ่านตอนเช้าตรู่ บางคนชอบอ่านตอนกลางคืนก่อนนอน บางคนชอบอ่านเวลากลางวัน แล้วแต่การจัดสรรเวลาของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน น้องต้องเลือกดูเวลาที่เหมาะสมของตัวเองนะ การจัดเวลาต้องให้ได้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง วันนึงถ้าอ่านหนังสือแค่วันละ 2 ชั่วโมงน้อยมาก . 2.

งานวิจัยเผย : คนฉลาดมักมีเพื่อนน้อยกว่าคนธรรม

งานวิจัยเผย : คนฉลาดมักมีเพื่อนน้อยกว่าคนธรรม

จากการศึกษางานวิจัยของ The British Journal of Psychology ทำการทดลองด้วยการสำรวจความเห็นของกลุ่มคนอายุ 18 ถึง 28 ปี จำนวนกว่า 15,000 คน ผลวิจัยพบว่า คนฉลาดหรือคนที่มีไอคิวสูง ๆ ที่จำนวนของกลุ่มเพื่อนมีผลกระทบต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก และคนฉลาดมักมีความพึงพอใจต่ำกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า นั่นแปลว่ายิ่งคุณฉลาดเท่าไหร่ คุณจะยิ่งไม่ชอบเข้าสังคมเลย . พบอีกว่าคนที่มีไอคิวสูงนั้นมักจะไม่ใช้เวลาไปกับการเข้าสังคมหรือใช้เวลากับเพื่อนมากนัก

งานวิจัยเผย : ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชาย

งานวิจัยเผย : ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชาย

จากการศึกษาเรื่องงานวิจัยที่น่าสนใจของ ดร.มุยเรียนน์ ไอริช นักประสาทวิทยาศาสตร์การรู้คิด จากสถาบันวิจัยประสาทวิทยาศาสตร์ออสเตรเลีย กล่าวว่าที่ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชายอาจเป็นเพราะผู้หญิงมักต้องทำงานที่ใช้ความจำในด้านบางอย่างมากกว่าผู้ชาย เช่น การตามตารางนัดหมาย หรือการตรวจสิ่งของต่างๆ ว่าเก็บไว้ตรงไหน ทำให้เหมือนเป็นการฝึกฝนไปในตัว . อีกทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษา & Holistic Medicine กล่าวว่าโครงสร้างของสมองระหว่างผู้ชายและผู้หญิงจะมีความแตกต่างกัน ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนเพศในช่วงตอนต้นของชีวิต โดยผู้หญิงจะมีสมองส่วน Hippocampus ทำหน้าที่เก็บความจำต่อเหตุการณ์ขนาดใหญ่กว่าผู้ชาย จึงเป็นสาเหตุให้ผู้หญิงสามารถจดจำเรื่องราวต่างๆ ได้มากกว่าและยังรวมถึงการระลึกเหตุการณ์เก่าๆ ที่สะเทือนจิตใจได้ดีกว่าผู้ชาย และขณะเดียวกันผู้ชายมักจะเก็บความทรงจำในภาพรวมหรือเหตุการณ์สำคัญๆมากกว่า

นักจิตวิทยาเผย : ระวังจิตพัง เพราะตามใจคนอื่น เป็นคนอะไรก็ได้

นักจิตวิทยาเผย : ระวังจิตพัง เพราะตามใจคนอื่น เป็นคนอะไรก็ได้

จากการศึกษาจาก แดรี่เลวานี จอห์นสัน (Darylevuanie Johnson) นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านการปรึกษาด้านจิตวิทยา กล่าวว่า คนที่ชอบเอาอกเอาใจผู้อื่นอยู่เสมอ หรือที่เรียกว่าเป็น People-Pleaser ที่ความพึงพอใจของคนอื่นมักจะมาก่อนของตัวเองเสมอ และคิดว่าตัวเองไม่มีอำนาจต่อรองใดๆ กับใครเลย เพราะการถูกปฏิเสธ ถูกโกรธ ถูกบอกเลิก หรือไม่ได้รับการยอมรับ . นับว่าเป็นเรื่องที่เจ็บปวดสำหรับคนประเภทนี้ ซึ่งหลายครั้งมันอาจถึงขั้นที่จะต้องแลกหรือเสียสละเวลา พลังงาน ความฝัน ความต้องการส่วนตัวของตัวเอง เพื่อทำให้คนอื่นมีความสุขมากที่สุด ทำให้พวกเขามักจะ