เลือกเรียนแบบไหนดี ระหว่าง Thesis กับ IS?

นับว่าเป็นเรื่องเครียดอีกเรื่องที่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่มากสำหรับคนที่เรียนต่อโทว่าจะเลือกเเบบไหน ระหว่าง Thesis กับ Is เเต่บอกก่อนเลยว่า ก่อนที่คุณๆจะเครียดเรื่องนี้ คุณต้องทำเข้าใจความหมาย ความต่างหรือของดี ข้อเสียทั้งสองอย่างให้ได้ก่อน เเละที่สำคัญที่สุดนั่นคือ คุณต้องรู้เป้าหมายตัวเองก่อนว่าคุณต้องการเรียนโทเพื่ออะไรกันเเน่?

​เเละในเรื่องของความต่างของ Thesis กับ Is นั่น มันต่างกันอยู่เเล้ว ซึ่งถ้าใครคิดว่า ทั้งสองอย่างนี้เเทบจะไม่ต่างกันเลย ขอบอกเลยว่า คุณคิดผิดจ้า เพราะต่างกันมากเลย ต่างกันทั้งความยากง่ายในการเรียน และการยอมรับในแวดวงวิชาการเลยนะ

​ซึ่งถ้าพูดถึงความหมายของทั้งสองอย่างเเบบที่ให้เข้าใจได้ง่ายๆก็จะกล่าวเป็นประมาณว่า

  • ​วิทยานิพนธ์ ( Thesis ) นั่นเป็นเรื่องที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน โดยผู้จัดทำจะยกเอาหัวข้อเรื่องใดเรื่องหนึ่งขึ้นมาวิจัยหรือขยายความ โดยนับเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาเพื่อเสนอรับปริญญา
  • ​ส่วนงานค้นคว้าอิสระ ( IS ) เป็นเรื่องที่มีคนทำ มาแล้วเราเอามาปรับปรุงแก้ไขต่อ ซึ่งการศึกษาวิจัยอิสระนั่นจะอาศัยการกลั่นกรองความรู้และสาระในเนื้อหาต่างๆที่มีผู้ศึกษาวิจัยไว้แล้ว การค้นคว้าอิสระที่ได้มาจากการอ่าน การรวบรวมวิเคราะห์ของผู้เขียนแล้วนำมาสรุปผลให้เป็นเรื่องเดียวกัน

​เเละถ้าพูดถึงความเเตกต่าง..วิทยานิพนธ์ (thesis) กับ สารนิพนธ์ (independent study) เป็นงานวิจัยประเภทหนึ่ง ซึ่งต่างกันตรงที่

1. ประเภทของแผนการเรียน ใครที่ทำวิทยานิพนธ์ เรียน แผน ก ๑ เเละแผน ก ๒ ส่วนผู้ที่เลือกทำสารนิพนธ์จะต้องเรียนแผน ข โดยในระดับปริญญาโท แบ่งออกเป็น ๓ แผนการเรียน คือ

​​1) แผน ก ๑ ไม่ต้องเรียนรายวิชา แต่ทำวิจัยแบบวิทยานิพนธ์ เหมาะสำหรับกลุ่มที่ทำงานวิจัยเป็นประจำ มีงานวิจัยตีพิมพ์หลายชิ้น GPAX ตอนป.ตรี ระดับเกียตินิยมอันดับหนึ่ง

​​2) แผน ก ๒ เรียนรายวิชา ทำงานวิจัยแบบวิทยานิพนธ์ เรียนระเบียบวิธีวิจัย GPAX ตอนป.ตรี 2.75 หรือแล้วแต่หลักสูตรกำหนด

​​และ 3) แผน ข เรียนรายวิชา ทำงานวิจัยแบบสารนิพนธ์ เรียนการศึกษาอิสระ GPAX แล้วแต่หลักสูตรกำหนด

2. เนื้อหา วิทยานิพนธ์ มีเนื้อหาของการวิจัยเข้มข้นกว่าสารนิพนธ์มาก ๆ

3. จำนวนคน ทุกแห่งบังคับให้วิทยานิพนธ์ทำ 1 คน/ต่อหนึ่งวิทยานิพนธ์ แต่สารนิพนธ์บางสถาบันก็ให้ทำเป็นกลุ่มได้

4. โอกาสการเรียนต่อในอนาคต ในระดับปริญญาเอกบางสาขา ไม่รับพิจารณาผู้ที่จบปริญญาโทด้วยสารนิพนธ์ ปริญญาเอกบางสาขายังพอพุดคุยได้ว่าจะรับหรือไม่รับโดยดูเนื้องาน เเละปริญญาเอกบางสาขาก็รับหมดทุกแบบ

ณ ที่นี้เลยว่า

​ถ้าเก่งจริงและมีความสามารถจริงก็เลือก ทำ Thesis ดีกว่าเพื่ออนาคตที่คิดว่าอยากจะต่อ ป.เอก …

​เเต่ถ้าเป้าหมายของคุณไม่ได้อยู่ที่ ป.เอก เเต่เรียนเพื่อต่อยอดหรือฆ่าเวลา ก็เลือก IS ดีกว่าเพราะจบง่ายสบายตัวดี หวังว่าบทความนี้จะพอเป็นประโยชน์ให้กับคุณนะครับ สุดท้ายหากคุณสนใจคอนเทนต์ดีๆสามารถหาอ่านจากที่

https://www.genzmanpower.com/articles/
https://www.researcherthailand.co.th/blog/
https://www.theprocontent.com/%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1/

Share:

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
Share on linkedin
LinkedIn

ขอคำปรึกษา

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย

Table of Contents

On Key

Related Posts

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ Thesis Thailand ขอแนะนำการจัดตารางการอ่านหนังสือ ดังนี้ . 1. เลือกเวลาที่เหมาะสม เวลาที่เหมาะสมหมายความว่า เวลาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนชอบอ่านตอนเช้าตรู่ บางคนชอบอ่านตอนกลางคืนก่อนนอน บางคนชอบอ่านเวลากลางวัน แล้วแต่การจัดสรรเวลาของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน น้องต้องเลือกดูเวลาที่เหมาะสมของตัวเองนะ การจัดเวลาต้องให้ได้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง วันนึงถ้าอ่านหนังสือแค่วันละ 2 ชั่วโมงน้อยมาก . 2.

งานวิจัยเผย : คนฉลาดมักมีเพื่อนน้อยกว่าคนธรรม

งานวิจัยเผย : คนฉลาดมักมีเพื่อนน้อยกว่าคนธรรม

จากการศึกษางานวิจัยของ The British Journal of Psychology ทำการทดลองด้วยการสำรวจความเห็นของกลุ่มคนอายุ 18 ถึง 28 ปี จำนวนกว่า 15,000 คน ผลวิจัยพบว่า คนฉลาดหรือคนที่มีไอคิวสูง ๆ ที่จำนวนของกลุ่มเพื่อนมีผลกระทบต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก และคนฉลาดมักมีความพึงพอใจต่ำกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า นั่นแปลว่ายิ่งคุณฉลาดเท่าไหร่ คุณจะยิ่งไม่ชอบเข้าสังคมเลย . พบอีกว่าคนที่มีไอคิวสูงนั้นมักจะไม่ใช้เวลาไปกับการเข้าสังคมหรือใช้เวลากับเพื่อนมากนัก

งานวิจัยเผย : ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชาย

งานวิจัยเผย : ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชาย

จากการศึกษาเรื่องงานวิจัยที่น่าสนใจของ ดร.มุยเรียนน์ ไอริช นักประสาทวิทยาศาสตร์การรู้คิด จากสถาบันวิจัยประสาทวิทยาศาสตร์ออสเตรเลีย กล่าวว่าที่ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชายอาจเป็นเพราะผู้หญิงมักต้องทำงานที่ใช้ความจำในด้านบางอย่างมากกว่าผู้ชาย เช่น การตามตารางนัดหมาย หรือการตรวจสิ่งของต่างๆ ว่าเก็บไว้ตรงไหน ทำให้เหมือนเป็นการฝึกฝนไปในตัว . อีกทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษา & Holistic Medicine กล่าวว่าโครงสร้างของสมองระหว่างผู้ชายและผู้หญิงจะมีความแตกต่างกัน ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนเพศในช่วงตอนต้นของชีวิต โดยผู้หญิงจะมีสมองส่วน Hippocampus ทำหน้าที่เก็บความจำต่อเหตุการณ์ขนาดใหญ่กว่าผู้ชาย จึงเป็นสาเหตุให้ผู้หญิงสามารถจดจำเรื่องราวต่างๆ ได้มากกว่าและยังรวมถึงการระลึกเหตุการณ์เก่าๆ ที่สะเทือนจิตใจได้ดีกว่าผู้ชาย และขณะเดียวกันผู้ชายมักจะเก็บความทรงจำในภาพรวมหรือเหตุการณ์สำคัญๆมากกว่า

นักจิตวิทยาเผย : ระวังจิตพัง เพราะตามใจคนอื่น เป็นคนอะไรก็ได้

นักจิตวิทยาเผย : ระวังจิตพัง เพราะตามใจคนอื่น เป็นคนอะไรก็ได้

จากการศึกษาจาก แดรี่เลวานี จอห์นสัน (Darylevuanie Johnson) นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านการปรึกษาด้านจิตวิทยา กล่าวว่า คนที่ชอบเอาอกเอาใจผู้อื่นอยู่เสมอ หรือที่เรียกว่าเป็น People-Pleaser ที่ความพึงพอใจของคนอื่นมักจะมาก่อนของตัวเองเสมอ และคิดว่าตัวเองไม่มีอำนาจต่อรองใดๆ กับใครเลย เพราะการถูกปฏิเสธ ถูกโกรธ ถูกบอกเลิก หรือไม่ได้รับการยอมรับ . นับว่าเป็นเรื่องที่เจ็บปวดสำหรับคนประเภทนี้ ซึ่งหลายครั้งมันอาจถึงขั้นที่จะต้องแลกหรือเสียสละเวลา พลังงาน ความฝัน ความต้องการส่วนตัวของตัวเอง เพื่อทำให้คนอื่นมีความสุขมากที่สุด ทำให้พวกเขามักจะ