สำรวจผลกระทบ”โควิด” จุดเปลี่ยนสำคัญการศึกษาโลก…

สำรวจผลกระทบ”โควิด” จุดเปลี่ยนสำคัญการศึกษาโลก…

ความเหลื่อมล้ำด้านเทคโนโลยี กับการเรียนออนไลน์ช่วงโควิด-19 ระบาด ส่งผลเด็กหลุดจากระบบ 24 ล้านคนทั่วโลก
มาตรการเร่งด่วนที่รัฐบาลหลายประเทศใช้เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสคือ เว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) และกึ่งปิดเมือง (semi-lockdown) ที่กำหนดสถานที่บางแห่งต้องปิด-เปิด ตามวันและเวลาที่กำหนด นอกจากนั้น หลาย ๆ ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยมีมาตรการปิดโรงเรียนเพื่อความปลอดภัยของเด็ก และใช้วิธีจัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์แทน
แม้ว่าจะมีหลักฐานมากมายที่ชี้ให้เห็นถึงผลเสียของการปิดโรงเรียน และหลักฐานต่าง ๆ จะแสดงให้เห็นว่าโรงเรียนไม่ใช่สถานที่หลักของการแพร่เชื้อ แต่ประเทศต่าง ๆ ก็ยังคงเลือกที่จะปิดโรงเรียนและสถานศึกษา ซึ่งบางแห่งได้ปิดมาแล้วเกือบหนึ่งปี
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รวบรวมความท้าทาย ปัญหา และความคิดเห็นเกี่ยวกับการเรียนออนไลน์ช่วงโควิด-19 ระบาด ดังนี้

ด็กเน็ตหมดเรียนหนังสือไม่ได้
วันที่ 19 ม.ค. 2564 ในโลกโซเชียลมีเดีย มีการแชร์ภาพแชตในไลน์ลงบนเฟซบุ๊กชื่อว่า Kammalat Seansano ซึ่งเป็นของนายกมลาสน์ แสนเสนาะ หรือครูโก้ ครูสอนวิชาศิลปะโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านบางกอกน้อย กรุงเทพฯ โดยครูที่สนทนากับนักเรียนเพื่อถามเด็ก ๆ ว่า สามารถเรียนออนไลน์ได้ทุกวิชาหรือเปล่า ถ้าไม่ได้ช่วยแจ้งมาด้วย และบอกเหตุผลมาว่าเป็นเพราะอะไร
ต่อมามีนักเรียนคนหนึ่งเข้ามาตอบว่า วันนี้หนูเรียนได้ แต่พรุ่งนี้ไม่ได้แล้ว เนื่องจากเน็ตไม่พอ ถ้าหากมีการบ้าน หนูจะให้เพื่อนส่งให้แทน
ทั้งนี้ นายกมลาสน์ ได้เขียนแคปชั่นว่า สามารถเป็นไปได้หรือไม่ที่กระทรวงฯจะดีลกับสัญญาณเครือข่ายโทรศัพท์ ให้นักเรียนได้ใช้อินเตอร์เน็ตแบบไม่จำกัดในช่วงนี้ ควรเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของภาครัฐที่ต้องออกมารับผิดชอบอนาคตของนักเรียน และไม่ต้องกังวลว่านักเรียนจะนำไปใช้ในผิดทาง เพราะเชื่อว่าเด็ก ๆ สามารถรับผิดชอบหน้าที่อนาคตของเขาได้ดีพอ
หลังจากนั้นมีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า อยากให้รัฐบาลมีนโยบายที่สอดคล้องกับการเรียนออนไลน์ เช่น การแจกซิม เป็นต้น จนโพสต์นี้ถูกแชร์ไปแล้วเกือบ 7 พันครั้ง
ผลสำรวจโชว์ ความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงเทคโนโลยี
จากข้อมูลการสำรวจการมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของครัวเรือนปี 2562 ซึ่งเป็นผลสำรวจที่เผยแพร่ล่าสุดของสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุจำนวนผู้ใช้คอมพิวเตอร์เป็นรายภาค สูงที่สุดคือกรุงเทพมหานคร มีผู้ใช้ร้อยละ 43.0 รองลงมาคือภาคกลาง ร้อยละ 24.7 ภาคเหนือร้อยละ 23.1 ภาคใต้ร้อยละ 22.5 และต่ำที่สุดภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 20.1
สำหรับการใช้อินเทอร์เน็ตพบว่า กรุงเทพมหานครมีผู้ใช้สูงที่สุดเช่นเดียวกันคือ ร้อยละ 85.3 รองลงมาคือภาคกลางร้อยละ 72.0 ภาคใต้ร้อยละ 65.2 ภาคเหนือร้อยละ 59.6 และต่ำที่สุดคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 56.8
เท่ากับว่าเด็กแต่ละพื้นมีครอบครัวที่มีกำลังและความสามารถในการสนับสนุนพวกเขาให้เข้าถึงเทคโนโลยีได้ต่างกัน
เด็กนักเรียน 1 ใน 3 ไม่สามารถเรียนทางไกล
องค์กรระหว่างประเทศด้านการศึกษาและประเทศต่าง ๆ เห็นว่าผลกระทบที่ร้ายแรงจากโควิด-19 ต่อเด็กและเยาวชนทั่วโลกไม่ใช่การติดเชื้อหรือป่วยด้วยโรคนี้ แต่เป็นการเสียโอกาสในการศึกษา และเด็กหลายคนไม่มีโอกาสเข้าถึงระบบพื้นฐานอินเตอร์เน็ตต่างกัน
วันที่ 20 ม.ค. 2564 องค์การยูนิเซฟได้แถลงการณ์คำกล่าวของนางเฮนเรียตตา โฟร์ ผู้อำนวยการบริหาร องค์การยูนิเซฟ ถึงการศึกษาในช่วงโควิด-19 ว่า ทุกฝ่ายต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้โรงเรียนสามารถเปิดได้อย่างต่อเนื่อง หรือจัดให้เป็นสถานที่ที่เปิดได้ในลำดับต้น ๆ
“การปิดโรงเรียนส่งผลกระทบต่อนักเรียนร้อยละ 90 ทั่วโลก โดยเด็กนักเรียนกว่า 1 ใน 3 ไม่สามารถเรียนทางไกลได้ มีการประมาณการณ์ว่า เด็กที่หลุดออกจากระบบการศึกษาจะเพิ่มขึ้นถึง 24 ล้านคน ซึ่งเป็นระดับที่สูงที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเป็นปัญหาที่เราพยายามทุ่มเทแก้ไขมาโดยตลอด”
นอกจากนั้น ทักษะการอ่านออกเขียนได้และการคำนวณของเด็กกำลังได้รับผลกระทบ อีกทั้งทักษะที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตท่ามกลางเศรษฐกิจโลกในศตวรรษที่ 21 ก็กำลังถดถอย รวมถึงสุขภาพ พัฒนาการ ความปลอดภัย และความเป็นอยู่ของเด็ก ๆ ก็กำลังตกอยู่ในความเสี่ยง เด็กกลุ่มเปราะบางที่สุดกำลังเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด
นางเฮนเรียตตา กล่าวด้วยว่า การที่เด็กไม่ได้กินอาหารที่โรงเรียน ทำให้เด็กจำนวนมากในหลายประเทศหิวโหยและมีภาวะโภชนาการที่แย่ลง การขาดปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน ๆ และการไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวในแต่ละวัน ทำให้เด็ก ๆ ต้องสูญเสียสมรรถภาพทางกายและเกิดความเครียด และเมื่อขาดการสนับสนุนต่าง ๆ จากโรงเรียน ส่งผลให้เด็ก ๆ มีความเสี่ยงมากขึ้นต่อการถูกทำร้าย การถูกบังคับให้แต่งงาน และการถูกใช้แรงงาน
“นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมการปิดโรงเรียนจึงควรเป็นทางเลือกสุดท้าย หลังจากได้พิจารณาทางเลือกอื่น ๆ ทั้งหมดแล้ว การตัดสินใจเรื่องการเปิดปิดโรงเรียนควรประเมินจากความเสี่ยงของการแพร่ระบาดในแต่ละพื้นที่ การปิดโรงเรียนทั่วประเทศนั้นเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดรุนแรงและระบบสาธารณสุขกำลังแบกรับภาระอย่างหนัก ซึ่งอาจจำเป็นต้องปิดโรงเรียน ก็ควรมีมาตรการคุ้มครองและช่วยเหลือเพื่อให้เด็กบางกลุ่มสามารถเรียนต่อได้ในห้องเรียน เช่น กลุ่มเด็กที่เสี่ยงต่อความรุนแรงในบ้าน หรือเด็กที่ต้องพึ่งพิงอาหารที่โรงเรียน หรือเด็กที่พ่อแม่จำเป็นต้องออกไปทำงานนอกบ้าน
ในพื้นที่ ๆ มีการล็อคดาวน์ โรงเรียนต้องเป็นสถานที่แรก ๆ ที่เปิดก่อนเมื่อรัฐบาลเริ่มผ่อนปรนมาตรการ นอกจากนี้ ควรจัดชั้นเรียนพิเศษเพื่อช่วยให้เด็กที่ไม่สามารถเรียนทางไกล สามารถเรียนตามทันได้ เพื่อไม่ให้พวกเขาต้องถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
“หากเด็ก ๆ ต้องเผชิญกับการปิดโรงเรียนต่อไปอีก 1 ปี ก็จะส่งผลกระทบต่อไปอีกหลายรุ่นอายุทีเดียว”

Share:

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
Share on linkedin
LinkedIn

ขอคำปรึกษา

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย

Table of Contents

On Key

Related Posts

การใช้สื่อสังคมออนไลน์ต่อสุขภาพจิตและความเสี่ยงในโรคซึมเศร้า

การใช้สื่อสังคมออนไลน์ต่อสุขภาพจิตและความเสี่ยงในโรคซึมเศร้า

การใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นส่วนสำคัญของการสื่อสารและการแลกเปลี่ยนข้อมูลในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม การใช้สื่อสังคมออนไลน์นั้นอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพจิตของบุคคล และเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าได้ด้วย 💁🏻‍♀️ ตามรายงานวิจัยของสถาบันภาพยนตร์และวิทยาศาสตร์สุขภาพแห่งชาติ (National Institute of Mental Health) ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่ใช้เวลาในการใช้งานมากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะซึมเศร้าได้สูงขึ้น หรือมีการสะสมความเครียดเพิ่มขึ้น การใช้สื่อสังคมออนไลน์อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพจิตของบุคคลได้อย่างหลากหลายรูปแบบ ซึ่งอาจมีผลกระทบที่ดีหรือเสียต่อบุคคลแต่ละคนตามความเป็นจริงของสถานการณ์และวิธีการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ดังนี้ อย่างไรก็ตาม สื่อสังคมออนไลน์ก็สามารถใช้เป็นเครื่องมือที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตได้ โดยการเข้าร่วมกลุ่มหรือชุมชนออนไลน์ที่เกี่ยวกับการสนทนาเกี่ยวกับสุขภาพจิต การแชร์ประสบการณ์

จัดหนักจัดเต็มทุกงานวิจัย

จัดหนักจัดเต็มทุกงานวิจัย

💁‍♀️ Thesis Thailand จัดหนักจัดเต็ม พร้อมช่วยแนะนำให้คำปรึกษาทุกงานวิจัย 🤩 และกระบวนการให้คำปรึกษางานวิจัยของ Thesis Thailand เป็นอย่างไรบ้างนั้น สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของเราคลิกเลย👉🏻https://thesisthailand.co.th  🗣 ติดต่อสอบถามปรึกษาปัญหาวิจัย 📲  📲 LINE: @THESISTH 📞 TEL: 063-207-3864 ✉️ INBOX: https://m.me/thesisthailand #วิจัยตัวร้าย #รับทำวิจัย

ครบเครื่องเรื่องงานวิจัยได้ที่Thesis Thailand

ครบเครื่องเรื่องงานวิจัยได้ที่Thesis Thailand

✨ การที่งานวิจัยจะถือว่า “ครบเครื่อง” จะต้องทำครบทุกส่วนประกอบอย่างเป็นระบบแบบมีคุณภาพสูงสุด 👏🏻 ดังนั้น การเลือกใช้บริการจาก Thesis Thailand ที่ปรึกษาในการทำงานวิจัยหลากหลายด้าน ผู้เชี่ยวชาญระดับชั้นการศึกษาต่างๆ จนถึงปริญญาเอก 👍🏻 พร้อมให้บริการด้านงานวิจัยได้อย่างครบครันเพื่อคุณ 🤩 🗣 ติดต่อสอบถามปรึกษาปัญหาวิจัย 📲  📲 LINE: @THESISTH 📞 TEL: 063-207-3864 ✉️

สุดยอดทีมงานวิจัยที่พร้อมช่วยคุณ

สุดยอดทีมงานวิจัยที่พร้อมช่วยคุณ

“เราเป็นผู้นำอันดับ 1 ของโลกด้านการเขียนเชิงวิชาการออนไลน์ โดยได้รับความไว้วางจากลูกค้า คุณภาพระดับสาขา” บริการที่ยืดหยุ่นสำหรับทุกขั้นตอนการทำงานของคุณ ไม่ว่าคุณจะทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกเสร็จมากแค่ไหน เราก็พร้อมจะเข้าไปมีส่วนร่วม ติดต่อสอบถามปรึกษาปัญหาวิจัย 📲 🔹 LINE: @THESISTH 🔹TEL: 063-207-3864 🔹 INBOX: https://m.me/thesisthailand #วิจัยตัวร้าย #รับทำวิจัย #รับทำการบ้าน #วิจัยปี4 #วิจัยปโท #รับทำวิทยานิพนธ์ #วิทยานิพนธ์