ธุรกิจ “วิทยานิพนธ์” “หลุมดำ” อุดมศึกษา

ธุรกิจ “วิทยานิพนธ์” “หลุมดำ” อุดมศึกษา
By Jakkrit Siririn -February 22, 2020
Facebook Twitter Pinterest
Thesis, Dissertation, Research, IS (Independent Study), ดุษฎีนิพนธ์, วิทยานิพนธ์, ภาคนิพนธ์, สารนิพนธ์, Project จบ
ปัญหาพิเศษ, รายงานวิจัย, บทความวิจัย, บทความวิชาการ, เอกสารวิชาการ, รายงาน, การบ้าน
จะเรียกชื่ออะไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่นักเรียน นิสิต นักศึกษา ต้องลงมือทำด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นงานเดี่ยว หรืองานกลุ่ม
แต่ในโลกนี้ คงมีประเทศไทยที่เดียวกระมัง ที่มี “การว่าจ้าง” ให้ทำสิ่งที่ผมเขียนเอาไว้ทั้งหมดเมื่อสักครู่ มีงานจ้าง และมีคนรับจ้าง แม้กระทั่ง “รับจ้างทำการบ้าน”
ผมคิดว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐควรเร่งตรวจสอบ “ธุรกิจรับจ้างทำวิทยานิพนธ์” โดยด่วนครับ
โดยเฉพาะสภามหาวิทยาลัยของสถาบันอุดมศึกษาทุกแห่ง ควร Take action ในประเด็น “ธุรกิจรับจ้างทำวิทยานิพนธ์” โดยเร็ว ซึ่งหากทำได้จะช่วยล้างคำครหา “สภาตรายาง” ได้เป็นอย่างดี
ที่สำคัญก็คือ ข้อสังเกตที่ว่า อาจมีอาจารย์ในมหาวิทยาลัยบางแห่งเป็นเจ้าของเครือข่าย “ธุรกิจรับจ้างทำวิทยานิพนธ์” เสียเอง ยังไม่นับข้อสงสัยที่ว่า ผู้บริหารสถาบันอุดมศึกษาบางแห่งรู้เห็นเป็นใจด้วยหรือไม่?

วิทยานิพนธ์
เพราะก็เป็นที่ “รู้ๆ กันอยู่” ว่าทุกวันนี้ มีถ้อยคำเสียดสีเกี่ยวกับการเปิดหลักสูตรในระดับบัณฑิตศึกษาของสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ประมาณว่า “จ่ายครบ จบแน่” คือบางแห่งแทบไม่มีการสอบเข้า และการทดสอบในขั้นตอนต่างๆ ก็เข้าข่าย “หยวนๆ” ที่สำคัญก็คือ ตอนจะให้จบก็ยังไม่เข้มงวดกับวิทยานิพนธ์ว่าเป็นการจ้างทำวิทยานิพนธ์มาหรือไม่?
แปลไทยเป็นไทยก็คือ เข้าข่าย “ฮั้ว” กันระหว่างลูกค้าคือ นักศึกษาปริญญาโท ปริญญาเอก และพ่อค้าแม่ขายคือ สถาบันอุดมศึกษา ใช่หรือไม่?
ทุกวันนี้ “ธุรกิจรับจ้างทำวิทยานิพนธ์” เหิมเกริมมาก ลองค้น Google คำว่า “รับจ้างทำวิทยานิพนธ์” คลิกปุ๊บ “ผลการค้นหาประมาณ 600,000 รายการ” ก็จะปรากฏที่หน้าจอของท่านปั๊บ

ค้น Google คำว่า “รับจ้างทำวิจัย” คลิกปั๊บ “ผลการค้นหาประมาณ 300,000 รายการ” ก็จะปรากฏที่หน้าจอของท่านปุ๊บ

“ธุรกิจรับจ้างทำวิทยานิพนธ์” มีตั้งแต่รับจ้างทำ Thesis, รับจ้างทำ Dissertation, รับจ้างทำ Research, รับจ้างทำ IS (Independent Study), รับจ้างทำดุษฎีนิพนธ์, รับจ้างทำวิทยานิพนธ์, รับจ้างทำภาคนิพนธ์, รับจ้างทำสารนิพนธ์, รับจ้างทำ Project จบ, รับจ้างทำปัญหาพิเศษ, รับจ้างทำรายงานวิจัย, รับจ้างทำบทความวิจัย, รับจ้างทำบทความวิชาการ, รับจ้างทำเอกสารวิชาการ, รับจ้างทำรายงาน, รับจ้างทำการบ้าน
ลุกลามบานปลายไปจนกระทั่งถึง “รับจ้างครูบาอาจารย์” ทำวิจัยในชั้นเรียน ทำผลงานวิชาการ ทำสื่อการสอน ทำ CAI ทำ e-Learning ทำ MOOC
ที่ยังขาดอยู่ก็คือ รับจ้างออกข้อสอบ รับจ้างตรวจข้อสอบ และรับจ้างตัดเกรด แต่ผมคิดว่าอีกไม่นานก็คงจะมี
วิทยานิพนธ์
“ธุรกิจรับจ้างทำวิทยานิพนธ์” มีตั้งแต่รับจ้างทำโครงร่างวิทยานิพนธ์ หรือ Proposal, รับจ้างทำบทที่ 1, รับจ้างทำบทที่ 2, รับจ้างทำบทที่ 3, รับจ้างทำบทที่ 4, รับจ้างทำบทที่ 5 ไปจนถึง “รับจ้างทำเฉพาะบท” หรือ “เหมาหมด” ทั้ง 5 บท หรือรับจ้างทำเฉพาะบทที่ 4 และรับจ้างทำเฉพาะบทที่ 5
บางเว็บไซต์มีการประกาศว่า “รับจ้างหาหัวข้อวิทยานิพนธ์”
บางแห่ง ประกาศ “รับจ้างทำบทที่ 2” คือการทบทวนวรรณกรรม หรือ Literature Review เพื่อช่วยนักศึกษาปริญญาโท ปริญญาเอก สืบค้นเอกสารต่างๆ ตามที่ต้องการให้ได้อย่างครบถ้วนกระบวนความ
บางเว็บ บอก “รับทำจ้างทำบทที่ 3” คือการออกแบบกลวิธีการวิจัย วางแผนให้ทุกขั้นตอน กระทั่งเขียนโมเดลการวิจัยให้ก็มี
บางแห่ง บอก “รับจ้างทำบทที่ 4” และ “บทที่ 5” คือการ “รับจ้างเคาะข้อมูล” ซึ่งหมายถึงการคีย์แบบสอบถามการวิจัย, การประมวลผลการวิจัย และการวิเคราะห์ผลการวิจัย ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็น SPSS, EQS, LISREL, AMOS, MPLUS
บางเว็บเสนอตัวสอนการแปลผลการวิจัย, อ่านผลการวิจัย และนำเสนอผลการวิจัย ไปจนกระทั่งอาสาเขียนข้อวิจารณ์ สรุปผลการวิจัย ถึงขนาดเขียนข้อเสนอแนะให้ก็มี

บางแห่ง ประกาศรับเขียนบทคัดย่อทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ และก้าวหน้าไปถึงขั้นภาษาจีนก็มี ขณะที่อีกบางแห่งประกาศรับทำวิทยานิพนธ์ภาษาอังกฤษก็มี

ที่สำคัญก็คือ มีการประกาศรับจ้างเขียนบทความวิจัยเป็นภาษาอังกฤษ ทำ Presentation ภาษาอังกฤษ และเตรียมเอกสารภาษาอังกฤษ เพื่อการไปนำเสนอผลงานวิจัยในเวทีวิชาการนานาชาติ ก็ยังดีที่ไม่รับจ้างไปนำเสนอให้ที่เมืองนอก
บางเว็บไซต์ ปวารณาตัวเป็นติวเตอร์ สอนทำ Presentation สอนการเตรียมเอกสาร และช่วยซักซ้อมการตอบคำถามปากเปล่าในวันสอบ Defense วิทยานิพนธ์ หรือ “สอบปกป้องวิทยานิพนธ์” หรือที่เรียกกันว่า “สอบจบ”
วิทยานิพนธ์
ผมมีข้อเสนอเพื่อแก้ปัญหา “ธุรกิจรับจ้างทำวิทยานิพนธ์” สองประเด็นครับ
หนึ่ง, สถาบันการศึกษาต้องเข้มงวดในการทำวิทยานิพนธ์ อาจารย์ที่ปรึกษาต้องประกบติดนักศึกษาตั้งแต่ Proposal จนถึงบทที่ 1 บทที่ 2 บทที่ 3 บทที่ 4 บทที่ 5 ซึ่งทุกบทต้องเรียกนักศึกษามาอธิบายที่มาที่ไป อาจารย์ที่ปรึกษาต้องเล่นบทมือสอบสวนเหมือนตำรวจกองปราบ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันสอบจบ คณะกรรมการสอบต้องให้นักศึกษา “รันโปรแกรม” ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลให้ดู และซักถามทุกขั้นตอนของการวิเคราะห์และการอ่านผลการวิเคราะห์
และถ้าจับได้ว่า นักศึกษาว่าจ้างทำวิทยานิพนธ์ก็ปรับตก หรือ Retire
สอง, หน่วยงานราชการที่กำกับดูแลสถาบันอุดมศึกษา ต้องลงพื้นที่ไปตรวจจับ “ธุรกิจรับจ้างทำวิทยานิพนธ์” ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่เป็น “คนในแวดวงวิชาการ” ทั้งนั้น!

แต่เมื่อยังไม่มีมาตรการทางกฎหมาย ก็ต้องใช้มาตรการทางสังคมกดดัน
ผมขอเสนอข้ามไปถึงขั้นที่ว่า ถ้าได้ตัวผู้กระทำความผิด ก็ให้ย้อนไป “เพิกถอนปริญญา” กลุ่มคนใน “ธุรกิจรับจ้างทำวิทยานิพนธ์” ทั้งหมด
แต่กว่าจะไปถึงวันนั้น ผมอยากให้ข้อคิดเตือนใจ นักศึกษารุ่นใหม่ ที่คิดจะจ้างทำวิทยานิพนธ์ ว่า
คุณไม่คิดหรือว่า วันหนึ่งข้างหน้า “ธุรกิจรับจ้างทำวิทยานิพนธ์” จะไม่ออกมาแฉ ว่าคุณจบ ดร. หรือคุณเป็นมหาบัณฑิต และบัณฑิตได้นั้น
เพราะใคร? https://www.salika.co/2020/02/22/dark-side-of-higher-education/

Share:

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
Share on linkedin
LinkedIn

ขอคำปรึกษา

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย

Table of Contents

On Key

Related Posts

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ

How to จัดตารางการอ่านหนังสือ Thesis Thailand ขอแนะนำการจัดตารางการอ่านหนังสือ ดังนี้ . 1. เลือกเวลาที่เหมาะสม เวลาที่เหมาะสมหมายความว่า เวลาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนชอบอ่านตอนเช้าตรู่ บางคนชอบอ่านตอนกลางคืนก่อนนอน บางคนชอบอ่านเวลากลางวัน แล้วแต่การจัดสรรเวลาของแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน น้องต้องเลือกดูเวลาที่เหมาะสมของตัวเองนะ การจัดเวลาต้องให้ได้อย่างน้อย 2 ชั่วโมง วันนึงถ้าอ่านหนังสือแค่วันละ 2 ชั่วโมงน้อยมาก . 2.

งานวิจัยเผย : คนฉลาดมักมีเพื่อนน้อยกว่าคนธรรม

งานวิจัยเผย : คนฉลาดมักมีเพื่อนน้อยกว่าคนธรรม

จากการศึกษางานวิจัยของ The British Journal of Psychology ทำการทดลองด้วยการสำรวจความเห็นของกลุ่มคนอายุ 18 ถึง 28 ปี จำนวนกว่า 15,000 คน ผลวิจัยพบว่า คนฉลาดหรือคนที่มีไอคิวสูง ๆ ที่จำนวนของกลุ่มเพื่อนมีผลกระทบต่อพวกเขาเป็นอย่างมาก และคนฉลาดมักมีความพึงพอใจต่ำกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า นั่นแปลว่ายิ่งคุณฉลาดเท่าไหร่ คุณจะยิ่งไม่ชอบเข้าสังคมเลย . พบอีกว่าคนที่มีไอคิวสูงนั้นมักจะไม่ใช้เวลาไปกับการเข้าสังคมหรือใช้เวลากับเพื่อนมากนัก

งานวิจัยเผย : ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชาย

งานวิจัยเผย : ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชาย

จากการศึกษาเรื่องงานวิจัยที่น่าสนใจของ ดร.มุยเรียนน์ ไอริช นักประสาทวิทยาศาสตร์การรู้คิด จากสถาบันวิจัยประสาทวิทยาศาสตร์ออสเตรเลีย กล่าวว่าที่ผู้หญิงความจำดีกว่าผู้ชายอาจเป็นเพราะผู้หญิงมักต้องทำงานที่ใช้ความจำในด้านบางอย่างมากกว่าผู้ชาย เช่น การตามตารางนัดหมาย หรือการตรวจสิ่งของต่างๆ ว่าเก็บไว้ตรงไหน ทำให้เหมือนเป็นการฝึกฝนไปในตัว . อีกทั้งยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษา & Holistic Medicine กล่าวว่าโครงสร้างของสมองระหว่างผู้ชายและผู้หญิงจะมีความแตกต่างกัน ซึ่งเป็นผลมาจากฮอร์โมนเพศในช่วงตอนต้นของชีวิต โดยผู้หญิงจะมีสมองส่วน Hippocampus ทำหน้าที่เก็บความจำต่อเหตุการณ์ขนาดใหญ่กว่าผู้ชาย จึงเป็นสาเหตุให้ผู้หญิงสามารถจดจำเรื่องราวต่างๆ ได้มากกว่าและยังรวมถึงการระลึกเหตุการณ์เก่าๆ ที่สะเทือนจิตใจได้ดีกว่าผู้ชาย และขณะเดียวกันผู้ชายมักจะเก็บความทรงจำในภาพรวมหรือเหตุการณ์สำคัญๆมากกว่า

นักจิตวิทยาเผย : ระวังจิตพัง เพราะตามใจคนอื่น เป็นคนอะไรก็ได้

นักจิตวิทยาเผย : ระวังจิตพัง เพราะตามใจคนอื่น เป็นคนอะไรก็ได้

จากการศึกษาจาก แดรี่เลวานี จอห์นสัน (Darylevuanie Johnson) นักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญด้านการปรึกษาด้านจิตวิทยา กล่าวว่า คนที่ชอบเอาอกเอาใจผู้อื่นอยู่เสมอ หรือที่เรียกว่าเป็น People-Pleaser ที่ความพึงพอใจของคนอื่นมักจะมาก่อนของตัวเองเสมอ และคิดว่าตัวเองไม่มีอำนาจต่อรองใดๆ กับใครเลย เพราะการถูกปฏิเสธ ถูกโกรธ ถูกบอกเลิก หรือไม่ได้รับการยอมรับ . นับว่าเป็นเรื่องที่เจ็บปวดสำหรับคนประเภทนี้ ซึ่งหลายครั้งมันอาจถึงขั้นที่จะต้องแลกหรือเสียสละเวลา พลังงาน ความฝัน ความต้องการส่วนตัวของตัวเอง เพื่อทำให้คนอื่นมีความสุขมากที่สุด ทำให้พวกเขามักจะ