การเขียนบทความทางวิชาการ

การเขียนบทความทางวิชาการ.png

บทความทางวิชาการมีวัตถุประสงค์ในการนำเสนอความรู้ความคิดใหม่ๆ  รวมทั้งประสบการณ์ของผู้เขียนเกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ บนพื้นฐานของวิชาการในเรื่องนั้นหรืออาจจะเป็นการแสดงความคิดเห็นในเชิงวิเคราะห์  วิจารณ์  และวิชาการ เพื่อนำเสนอแนวคิดใหม่ๆ เกี่ยวกับเรื่องนั้นหรือเพื่อตั้งคำถามหรือประเด็นใหม่ๆ ที่จะกระตุ้นให้ผู้อ่านเกิดความสนใจที่จะศึกษาค้นคว้าในเรื่องนั้นต่อไป ในวันนี้เราจะมาพูดถึง   

ลักษณะสำคัญของบทความทางวิชาการกันก่อนว่ามีอะไรบ้าง

                1.  มีการนำเสนอความรู้ ความคิดที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานทางวิชาการที่เชื่อถือได้ในเรื่องนั้นๆ โดยมีหลักฐานทางวิชาการอ้างอิง

                2.  มีการวิเคราะห์ วิจารณ์ ให้ผู้อ่านเห็นประเด็นสำคัญอันเป็นสาระประโยชน์ที่ผู้เขียนต้องการนำเสนอแก่ผู้อ่าน ซึ่งอาจจำเป็นต้องใช้ประสบการณ์ส่วนตัว หรือประสบการณ์และผลงานของผู้อื่นมาใช้

                3.  มีการเรียบเรียงเนื้อหาสาระอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยให้ผู้อ่านเกิดความกระจ่างในความรู้ความคิดที่นำเสนอ

                4.  มีการอ้างอิงทางวิชาการและให้แหล่งอ้างอิงทางวิชาการอย่างถูกต้อง เหมาะสมตามหลักวิชาการ และจรรยาบรรณของนักวิชาการ

                5.  มีการอภิปรายให้แนวคิด แนวทางในการนำความรู้ ความคิดที่นำเสนอไปใช้ให้เป็นประโยชน์ หรือมีประเด็นใหม่ๆ ที่กระตุ้นให้ผู้อ่านเกิดความต้องการสืบเสาะหาความรู้หรือพัฒนาความคิดในประเด็นนั้นๆ ต่อไป โดยทั่วไปบทความทางวิชาการจะมีส่วนประกอบที่สำคัญๆ ดังนี้

                1.  ส่วนนำ

                ส่วนนำจะเป็นส่วนที่ผู้เขียนจูงใจให้ผู้อ่านเกิดความสนใจในเรื่องนั้นๆ  ซึ่งสามารถใช้วิธีการและเทคนิคต่างๆ  ตามแต่ผู้เขียนจะเห็นสมควร  เช่น  อาจใช้ภาษาที่กระตุ้น  จูงใจผู้อ่านหรือยกปัญหาที่กำลังเป็นที่สนใจขณะนั้นขึ้นมาอภิปราย  หรือตั้งประเด็นคำถามหรือปัญหาที่ท้าทายความคิดของผู้อ่านหรืออาจจะกล่าวถึงประโยชน์ที่ผู้อ่านจะได้รับจากการอ่าน  เป็นต้น  นอกจากจะเป็นส่วนที่ใช้จูงใจผู้อ่านแล้ว  ส่วนนำเป็นส่วนที่ผู้เขียนสามารถกล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการเขียนบทความนั้น  หรือให้คำชี้แจงที่มาของการเขียนบทความนั้น ๆ  รวมทั้งขอบเขตของบทความนั้น  เพื่อช่วยให้มีกรอบแนวคิดที่จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาสาระที่นำเสนอต่อไป

                2.  ส่วนสาระสำคัญของเรื่อง

ในส่วนนี้ผู้เขียนควรคำนึงถึงประเด็นสำคัญๆ  ดังต่อไปนี้

  • การจัดลำดับเนื้อหาสาระ  ผู้เขียนควรมีการวางแผนจัดโครงสร้างของเนื้อหาสาระที่จะนำเสนอ   การนำเสนอเนื้อหาสาระควรมีความต่อเนื่องกัน  เพื่อช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจสาระนั้นได้โดยง่าย
  • การเรียบเรียงเนื้อหา  ในส่วนนี้ต้องอาศัยความสามารถของผู้เขียนในหลายด้านนอกเหนือจากความเข้าใจในเนื้อหาสาระ  ในด้านวิธีการนำเสนอดังนี้

1  ด้านการใช้ภาษา  การเขียนบทความทางวิชาการ  จะต้องใช้คำในภาษาไทยหากคำไทยนั้นยังไม่เป็นที่เผยแพร่หลาย  ควรใส่คำภาษาต่างประเทศไว้ในวงเล็บ  ในกรณีที่ไม่สามารถหาคำไทยได้  จะเป็นต้องทับศัพท์ก็ควรเขียนคำนั้นให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของราชบัณฑิตสถาน  ไม่ควรเขียนภาษาไทยและต่างประเทศปะปนกันในลักษณะที่เรียกว่า “ไทยคำ  อังกฤษคำ”  เพราะจะทำให้งานเขียนนั้นมีลักษณะของความเป็นทางการ (formal) ลดลง  ผู้เขียนบทความทางวิชาการ  จำเป็นต้องพิถีพิถันในเรื่องการเขียนตัวสะกดการันต์ต่างๆ  ให้ถูกต้องตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน  และควรตรวจทานงานของตนไม่ให้ผิดพลาด  เพราะงานนั้นจะเป็นแหล่งอ้างอิงทางวิชาการต่อไป

2  ด้านสไตล์การเขียน  ผู้เขียนแต่ละคนย่อมมีสไตล์การเขียนของตนซึ่งจะเป็นเอกลักษณ์และเป็นเสรีภาพของผู้เขียน  อย่างไรก็ตาม  ไม่ว่าผู้เขียนจะใช้สไตล์อะไร  สิ่งที่ควรคำนึงก็คือ  ผู้เขียนจะต้องเขียนอธิบายเรื่องนั้นๆ ให้ผู้อ่านเกิดความกระจ่างมากที่สุด  ซึ่งอาจต้องใช้เทคนิคต่างๆ  ที่

จำเป็น  เช่น  การจัดลำดับหัวข้อ  การยกตัวอย่างที่เหมาะสม  การใช้ภาษาที่กระชับชัดเจน  และเหมาะสมกับผู้อ่าน  เป็นต้น

3  ด้านวิธีการนำเสนอ  การนำเสนอเนื้อหาสาระให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายและได้อย่างรวดเร็วนั้น  จำเป็นต้องใช้เทคนิคต่างๆ  ในการนำเสนอเข้าช่วย  เช่น การใช้สื่อประเภทภาพ  แผนภูมิ  ตาราง  กราฟ  เป็นต้น  

  • การวิเคราะห์  วิพากษ์  วิจารณ์  และการนำเสนอความคิดของผู้เขียน  บทความที่ดี  ควรมีการนำเสนอความคิดเห็นของผู้เขียน  ซึ่งอาจออกมาในลักษณะของการวิเคราะห์  วิจารณ์  ข้อมูล  เนื้อหาสาระ  ให้เป็นประเด็นที่เป็นส่วนของการริเริ่มสร้างสรรค์ของผู้เขียน  ซึ่งอาจจะนำเสนอไปพร้อมๆ  กับการนำเสนอเนื้อหาสาระ  หรืออาจจะนำเสนอก่อนการนำเสนอข้อมูลหรือเนื้อหาสาระก็ได้  แล้วแต่สไตล์การเขียนของผู้เขียน  หรือความเหมาะสมกับลักษณะเนื้อหาของเรื่องนั้นๆ

  3.  ส่วนสรุป

                บทความทางวิชาการที่ดีควรมีการสรุปประเด็นสำคัญของบทความนั้นๆ  ซึ่งอาจทำในลักษณะที่เป็นการย่อ  คือการเลือกเก็บประเด็นสำคัญของบทความนั้นๆ   มาเขียนรวมกันไว้อย่างสั้นๆ  ท้ายบท  หรือ  อาจใช้วิธีการบอกผลลัพธ์ว่า  สิ่งที่กล่าวมามีความสำคัญอย่างไร  สามารถนำไปใช้อะไรได้บ้าง  หรือจะทำให้เกิดอะไรต่อไป  หรืออาจใช้วิธีการตั้งคำถามหรือให้ประเด็นทิ้งท้ายกระตุ้นให้ผู้อ่านไปสืบเสาะแสวงหาความรู้  หรือคิดค้นพัฒนาเรื่องนั้นต่อไป  งานเขียนที่ดีควรมีการสรุปในลักษณะใดลักษณะหนึ่งเสมอ

                4.  ส่วนอ้างอิง

                เนื่องจากบทความทางวิชาการ  เป็นงานที่เขียนขึ้นบนพื้นฐานของวิชาการที่ได้มีการศึกษา  ค้นคว้า  วิจัยกันมาแล้ว  และการวิเคราะห์  วิจารณ์อาจมีการเชื่อมโยงกับผลงานของผู้อื่นจึงจำเป็นต้องมีการอ้างอิงเมื่อนำข้อความหรือผลงานของผู้อื่นมาใช้  โดยการระบุให้ชัดเจนว่าเป็นงานของใคร  ทำเมื่อไร  และนำมาจากไหน  เป็นการให้เกียรติเจ้าของงาน  และประกาศให้ผู้อ่านรับรู้ว่า  ส่วนนั้นไม่ใช่ความคิดของผู้อื่น  รวมทั้งเป็นการให้หลักฐานแก่ผู้อ่าน  ให้ผู้อ่านสามารถไปสืบเสาะแสวงหาความรู้เพิ่มเติม  หรือติดตามตรวจสอบหลักฐานได้

โดยทั่วไป  การอ้างอิงทำได้หลายแบบที่นิยมกันคือ การอ้างอิงแบบลงเชิงอรรถ  และการทำบรรณานุกรม ซึ่งการอ้างอิงนั้น มี 2 ระบบ คือระบบนามปี เป็นการอ้างอิงโดยลงชื่อผู้แต่ง ปีที่พิมพ์ และเลขหน้าของเอกสารที่อ้างอิง

บทความทางวิชาการเป็นช่องทางหนึ่งที่จะเผยแพร่ความรู้  ความคิดและประสบการณ์ของสำนักวิชาการออกสู่วงวิชาการและสาธารณชน  ซึ่งช่วยให้นักวิชาการได้ทราบว่าความคิดและความรู้ใหม่ๆ  ที่ตนได้พัฒนาขึ้นนั้นได้รับการยอมรับหรือไม่ยอมรับ  หรือมีจุดอ่อน  จุดเด่นประการใด  ความรู้และความคิดเหล่านี้ควรจะได้มาจากการที่ผู้เขียนได้ศึกษาค้นคว้า  วิเคราะห์  วิจารณ์มาอย่างดีแล้วจนกระทั่งเกิดแนวคิดใหม่ๆ ต่อเนื่องออกไป  ในทางที่จะสร้างสรรค์วิชาการเรื่องนั้นๆ ให้งอกงามต่อไปอีก  บทความทางวิชาการที่ดี  ควรมีส่วนช่วยกระตุ้นให้ผู้อ่านได้แนวคิดแนวทางในการนำความคิดนั้นไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในรูปแบบหนึ่ง  หรือช่วยกระตุ้นให้ผู้อ่านเกิดการพัฒนาความคิดในเรื่องนั้นๆ  ต่อไป

ที่มา : การเขียนบทความทางวิชาการ

Share:

Share on facebook
Facebook
Share on twitter
Twitter
Share on pinterest
Pinterest
Share on linkedin
LinkedIn

ขอคำปรึกษา

Tag : การทำ is จ้างทำ is จ้างทำวิจัย จ้างทำวิทยานิพนธ์ จ้างทํางานวิจัย จ้างทําวิจัย ป.ตรี ราคา จ้างทําวิจัยราคา จ้างทําวิจัยราคาประหยัด จ้างทําวิจัย ราคาเท่าไหร่ จ้างทําวิทยานิพนธ์ จ้างทําวิทยานิพนธ์ราคา จ้างวิจัย ทําวิทยานิพนธ์ ทำงานวิจัย ทำงานวิทยานิพนธ์ บริการรับทำวิจัย รับจัดหน้าวิทยานิพนธ์ รับจ้างทำ is รับจ้างทํางานวิจัย ราคาถูก รับจ้างทํารายงาน รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ รับจ้างทําวิทยานิพนธ์ ราคาถูก รับจ้างเขียนรายงาน รับทำ is รับทำ powerpoint รับทำ spss รับทำ thesis รับทำดุษฎีนิพนธ์ รับทำวิจัย รับทำวิจัยราคาถูก รับทำวิทยานิพนธ์ รับทำสารนิพนธ์ รับทำแบบสอบถาม รับทำโปรเจคจบ รับทํา thesis รับทํางานวิจัย รับทําปริญญานิพนธ์ รับทํารายงาน รับทําวิจัย ป.ตรี รับทําวิทยานิพนธ์ รับทําวิทยานิพนธ์ ป.โท รับทําวิทยานิพนธ์ ราคา รับทําวิทยานิพนธ์ราคาเท่าไหร่ รับทํา สารนิพนธ์ รับแปลงานวิจัย ราคารับทำวิทยานิพนธ์ วิจัย

Table of Contents

On Key

Related Posts

การใช้สื่อสังคมออนไลน์ต่อสุขภาพจิตและความเสี่ยงในโรคซึมเศร้า

การใช้สื่อสังคมออนไลน์ต่อสุขภาพจิตและความเสี่ยงในโรคซึมเศร้า

การใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นส่วนสำคัญของการสื่อสารและการแลกเปลี่ยนข้อมูลในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม การใช้สื่อสังคมออนไลน์นั้นอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพจิตของบุคคล และเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคซึมเศร้าได้ด้วย 💁🏻‍♀️ ตามรายงานวิจัยของสถาบันภาพยนตร์และวิทยาศาสตร์สุขภาพแห่งชาติ (National Institute of Mental Health) ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่ใช้เวลาในการใช้งานมากกว่า 2 ชั่วโมงต่อวัน มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะซึมเศร้าได้สูงขึ้น หรือมีการสะสมความเครียดเพิ่มขึ้น การใช้สื่อสังคมออนไลน์อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพจิตของบุคคลได้อย่างหลากหลายรูปแบบ ซึ่งอาจมีผลกระทบที่ดีหรือเสียต่อบุคคลแต่ละคนตามความเป็นจริงของสถานการณ์และวิธีการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ดังนี้ อย่างไรก็ตาม สื่อสังคมออนไลน์ก็สามารถใช้เป็นเครื่องมือที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตได้ โดยการเข้าร่วมกลุ่มหรือชุมชนออนไลน์ที่เกี่ยวกับการสนทนาเกี่ยวกับสุขภาพจิต การแชร์ประสบการณ์

จัดหนักจัดเต็มทุกงานวิจัย

จัดหนักจัดเต็มทุกงานวิจัย

💁‍♀️ Thesis Thailand จัดหนักจัดเต็ม พร้อมช่วยแนะนำให้คำปรึกษาทุกงานวิจัย 🤩 และกระบวนการให้คำปรึกษางานวิจัยของ Thesis Thailand เป็นอย่างไรบ้างนั้น สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของเราคลิกเลย👉🏻https://thesisthailand.co.th  🗣 ติดต่อสอบถามปรึกษาปัญหาวิจัย 📲  📲 LINE: @THESISTH 📞 TEL: 063-207-3864 ✉️ INBOX: https://m.me/thesisthailand #วิจัยตัวร้าย #รับทำวิจัย

ครบเครื่องเรื่องงานวิจัยได้ที่Thesis Thailand

ครบเครื่องเรื่องงานวิจัยได้ที่Thesis Thailand

✨ การที่งานวิจัยจะถือว่า “ครบเครื่อง” จะต้องทำครบทุกส่วนประกอบอย่างเป็นระบบแบบมีคุณภาพสูงสุด 👏🏻 ดังนั้น การเลือกใช้บริการจาก Thesis Thailand ที่ปรึกษาในการทำงานวิจัยหลากหลายด้าน ผู้เชี่ยวชาญระดับชั้นการศึกษาต่างๆ จนถึงปริญญาเอก 👍🏻 พร้อมให้บริการด้านงานวิจัยได้อย่างครบครันเพื่อคุณ 🤩 🗣 ติดต่อสอบถามปรึกษาปัญหาวิจัย 📲  📲 LINE: @THESISTH 📞 TEL: 063-207-3864 ✉️

สุดยอดทีมงานวิจัยที่พร้อมช่วยคุณ

สุดยอดทีมงานวิจัยที่พร้อมช่วยคุณ

“เราเป็นผู้นำอันดับ 1 ของโลกด้านการเขียนเชิงวิชาการออนไลน์ โดยได้รับความไว้วางจากลูกค้า คุณภาพระดับสาขา” บริการที่ยืดหยุ่นสำหรับทุกขั้นตอนการทำงานของคุณ ไม่ว่าคุณจะทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกเสร็จมากแค่ไหน เราก็พร้อมจะเข้าไปมีส่วนร่วม ติดต่อสอบถามปรึกษาปัญหาวิจัย 📲 🔹 LINE: @THESISTH 🔹TEL: 063-207-3864 🔹 INBOX: https://m.me/thesisthailand #วิจัยตัวร้าย #รับทำวิจัย #รับทำการบ้าน #วิจัยปี4 #วิจัยปโท #รับทำวิทยานิพนธ์ #วิทยานิพนธ์